นี้เป็นบทความจากแฟนชาวจีนที่ได้ไปปักหลักและอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นได้เขียนบทความเมื่อครั้งที่เธอและเพื่อนได้เดินทางร่วมมากับคณะทัวร์จากประเทศญี่ปุ่นเพื่อมาเยี่ยม Park Si Hoo ที่เมือง Busan ในระหว่างวันที่ 6 - 8 ก.พ 2014 ที่ผ่านมา :
* NK : จะขอมาเล่าอย่างสังเขปอีกเช่นเคยตามที่เวลาจะให้ได้จริงๆนะคะ ขอบคุณ
จำนวนคณะที่เดินทางมาทั้งหมดนั้นที่สุดแล้วคือ 220 คนด้วยกัน ซึ่งออกเดินทางมากันในวันที่ 6 ก.พ ที่ผ่านมาจากทั้งจาก Narita, Nagoya, และ Fukuoka ก่อนที่จะมาสมทบกันที่สนามบิน Kansai เพื่อบินต่อกันไปที่เมือง Busan สถานที่พักคือ Busan Lotte Hotel เมื่อเรามาถึงพนักงานก็ได้มอบผ้าคลุมไหล่และถุง heater เล็กๆให้กับเราในทันที และบอกกับเราว่าอากาศนั้นหนาวเย็น ดังนั้น Park Si Hoo จึงได้เตรียมมันให้เป็นพิเศษให้กับพวกเราทุกคน
ต่อมาในเวลา 7:40 น ตอนเช้าของวันที่ 7 ก.พ เราก็ได้เดินทางโดยรถบัสไปที่สถานที่ถ่ายทำ และให้เกิดมีฝนตกขึ้นมาเมื่อเรากำลังจะออกเดินทาง สถานที่ถ่ายทำคือสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงชื่อ " Taejong dae " ฝนนั่นยิ่งโปรยปรายลงมามากยิ่งขึ้นไปอีก เรานั้นต้องใช้ร่มเพื่อที่จะเดินด้วยเท้าต่อกันไปอีกกว่า 10 นาทีก่อนที่จะไปถึงหน้าผาซึ่งหันหน้าออกไปทางทะเล มีพนักงานหลายคนในพื้นที่อยู่ที่นั่น และเราก็ได้เห็นสาวสวยที่เราได้เห็นภาพของเธอกับ PSH เมื่อวันที่ 28 มกราคม เมื่อเขาเดินทางกลับเกาหลีที่สนามบิน Pudong ที่ยืนอยู่ถัดจาก Park Si Hoo คนนั้นเอง แต่ก็ไม่เคยเห็นเธอที่กองถ่ายที่เซี้ยงไฮ้มาก่อน
เธอนั้นสงสัยมากว่าพวกเราคือใคร และฉันก็เลยถามเธอกลับไปบ้างว่าแล้วเธอคือใครเธอก็ยิ้มและตอบว่าเธอคือทีมงานคนหนึ่ง เราเลยบอกว่าเรานั้นเป็นคนจีนแต่อาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และดีใจที่ได้มาชมกองถ่ายที่เกาหลี และฉันก็ขอให้ " Scent " ประสพความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ และหวังว่า " Scent " จะเข้าไปฉายที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน
หลังจากพูดคุยกับทีมงานสักพัก เราก็เหลือบไปเห็นรถสีดำของ PSH ที่จอดอยู่ ทุกๆคนจึงถ่ายรูปกันไว้เป็นที่ระลึกที่หน้ารถ และฉันก็พยายามมองดูข้างในก็เห็นที่นั่งของ PSH ที่อยู่ที่ด้านหลัง
มีรถบัสทั้งสิ้น 5 คันด้วยกันที่ขนทีมงานของกองถ่ายมาทำการสำรวจพื้นที่ทั้งที่ด้านล่างและด้านบนหน้าผา ตรงนี้คุณสามารถมองเห็นทีมช่างกล้องที่อยู่ที่ด้านล่างลงไปกำลังทำการถ่ายทำกันอยู่ เมื่อเราไปเดินเล่นรอบๆเสร็จเราก็เห็น PSH กำลังเดินมาทางเรา เราจึงส่งเสียงตะโกนเรียกชื่อเขา เขาก็เดินมาข้างหน้าและเริ่มโบกมือไปมาให้กับเรา และทำมือเป็นรูปหัวใจด้วย แต่เพราะมันไกลมากๆเราแทบจะมองไม่เห็นหน้าเขาเลย เห็นแต่ชุดเสื้อ Coat สีแดงแจ๋ตัวนั่นเท่านั้นเอง คุณจะเห็นภาพด้านล่างนั้นแหละกับภาพของเขาที่โบกมือขึ้นมาให้เราจากที่ด้านล่าง
หลังจากทักทายกันในระยะไกลได้สักพัก พนักงานก็มาบอกเราว่าถึงเวลาต้องไปแล้ว เราก็ได้แต่ลังเลที่จะต้องโบกมือร่ำลากับเขา และก่อนที่จะไป เราก็เห็นน้องชายของ PSH เข้า ก็เลยได้ภาพหมู่กับเขามาด้วย เมื่อครั้งงานนิทรรศการทั้งที่ Tokyo และ Osaka เราก็ได้พูดคุยกับเขาเช่นกัน ป่านนี้เขาคงจำเราได้แล้วมั้ง
พนักงานได้มาบอกเราว่าแม้จะอยากให้พวกเราได้อยู่นานกว่านี้แต่เนื่องจากสภาพทางเดินที่ค่อนข้างลื่นและเฉอะแฉะ พวกเขาจึงไม่สามารถให้เราลงไปข้างล่างได้ แม้เราจะเสียใจอยู่บ้าง แต่คืนนี้เราก็จะได้พบกับเขาอีกครั้งก็เลยพอทำใจได้ในที่สุด ก่อนเราจะไปเราเห็นล่ามของ PSH ที่ไปกับเขาที่เมืองจีนเราจึงเข้าไปทักและขอบคุณเขาที่ร่วมเดินทางและช่วยเหลืออยู่เคียงข้าง PSH เป็นอย่างดี
ที่นั่นคุณสามารถมองเห็น PSH ได้แต่ทีมงานนั่นไม่อนุญาตให้เราถ่ายรูปได้ ดังนั้นฉันจึงเก็บมาได้เพียงรูปเดียวเพื่อความทรงจำ เรามองดูเขาจากในระยะที่ไม่ไกลนัก พอที่จะปรับภาพให้ Focus ให้เหมาะสมได้ ก่อนที่จะถ่ายภาพเขาไว้ได้ในที่สุด
นี้คือของขวัญของเราแก่ PSH
มีที่นั่งที่เราต้องเลือก และฉันนั้นถึงกับกระโดดดีใจสุดขีด เมื่อเลือกได้ที่นั่งแถวหน้าตรงกลางเลย โชคดีจริงๆ
เพราะดีใจมากเลยต้องถ่ายรูปไว้สักหน่อย^^
อีกเรื่องหนึ่ง ในระหว่างที่คอยการเดินทางมาถึงของ Sihoo เราได้เห็นแม่ของเขาด้วย
เธอนั่นดูอ่อนกว่าวัยและเรียบร้อยมาก ดูเหมือนจะผอมลงไปบ้างเล็กน้อย
ในที่สุดก็เข้ามาด้านในของห้อง มีภาพถ่ายของเขาในหนัง Scent เราก็เลยถ่ายภาพเอาไว้เป็นที่ระลึกอีก และต่อมาเราก็ได้รับประทานอาหารที่เสิร์ฟแบบ Buffet กันอย่างเอร็ดอร่อย
ต่อมาไม่นาน พิธีกรก็ออกมาพูดเพียงสั้นๆว่าเขานั้นเกิดที่ Busan และไปอยู่ที่ญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้วนี้เอง แต่ปีนี้ถูกหมายทหารเรียกจึงต้องกลับมาเกาหลี และดีใจมากที่ได้มามีโอกาสร่วมงานกับ Mr. Park Si Hoo เขาพูดภาษาญีปุ่นได้ดีมากทีเดียว และเขาก็พูดขึ้นว่าให้เรามานับ 1,2,3 เรียก Sihoo ออกมากัน
และเราก็เริ่มเรียกชื่อ Sihoo กันออกมา เราเรียกชื่อเขาอยู่ 3 ครั้งครั้งสุดท้ายนั่นดังที่สุด และในที่สุด Sihoo ก็เดินยิ้มออกมา ได้พบเขาอีกครั้งหนึ่งหลังจากเวลา 1 ปีเต็มๆผ่านไป พวกเรานั้นตื่นเต้นและมีความสุขกันเป็นอย่างมาก ขณะที่เรียกชื่อเขาเราก็ตบมือ และโบกมือตามไปด้วย ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามมากจริงๆ Sihoo ได้กล่าวขอบคุณทุกๆคนจากประเทศญี่ปุ่นที่เดินทางมาสนับสนุนเขาจากแดนไกล และกล่าวว่าดีใจที่ได้พบพวกเราอีกครั้ง เขาใส่เสื้อสูทสีเทา หล่อเหลาเด่นสะดุดตาเกินคำบรรยายจริงๆ
ดูโดดเด่นแตกต่างจากใครๆ ไปหมด
ในที่สุด พิธีกรก็มาบอกว่าเพื่อเป็นการขอบคุณแฟนๆ ที่เดินทางมาให้กำลังใจกับเขา Sihoo จึงมีของขวัญมามอบให้กับเราคือ ไวน์ชั้นดี 1 ขวด ในทันทีนั้นพวกเราทุกคนก็ตื่นเต้นกันเป็นการใหญ่ แต่ก่อนที่เราจะได้พูดอะไร พิธีกรก็บอกว่าได้มีการเตรียมการกันเอาไว้แล้วในการมอบของขวัญชิ้นนี้โดยขอให้แฟนกลับไปดูที่ๆนั่งของพวกเราและถ้ามันคือเลขที่นั่งที่ถูกเลือกไว้แล้ว ผู้นั้นก็จะได้ไวน์กลับบ้านไป ฉันนั่นแทบรอไม่ไหวจึงรีบก้มไปดูที่ๆนั่งของตัวเองในทันที
แต่ในที่สุดแฟนที่นั่งถัดจากฉันในช่วงที่ทานอาหารกันก็ร้องเสียงดังขึ้นมาว่า
ใต้เก้าอี้ของเธอนั้นได้รับเลือกให้เป็นผู้โชคดี ฉันก็เลยยินดีกับเธอไป
ช่วง Climax ของงานคือช่วงที่ Sihoo นั้นจะทำการ Shake hand กับทุกๆคน Sihoo และประธานของ JOFC ยืนอยู่บนเวทีที่ด้านหลังโต๊ะ และพวกเราก็เริ่มเข้าแถวเพื่อ Shake hand กับเขา ทุกๆคนนั้นตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก ทุกๆคนนั้นอยากจะจับมือกับเขาเป็นเวลานานๆ แต่ทีมงานนั่นจะคอยควบคุมให้พวกเราเคลื่อนตัวกันไปเรื่อยๆทุก 5 วินาที มีแฟนสาวชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งนั้นไม่ยอมปล่อยมือเขา หลังจากนั้นเธอถูกบังคับให้เดินต่อไป ก็ถึงกับร้องไห้เช็ดน้ำตาจนทำให้พนักงานนั้นทำอะไรไม่ถูกกันไปหมด
ต่อมาก็มาถึงคราวของพวกเราบ้าง เพื่อนของฉันที่อยู่ข้างหน้าฉันได้พูดออกมาเสียงดังกับ Sihoo และอวยพรเขา Happy horse year ถึง 2 ครั้งเป็นภาษาจีน Sihoo แรกๆ นั้นก็ประหลาดใจและต่อมาก็หัวเราะ ถึงคราวฉันจับมือกับเขาบ้าง เขาก็พูดออกมาเป็นภาษาจีนว่า Hello และก็หัวเราะไปด้วยกัน มีทีมงานฝ่ายจีนที่เป็นคนถ่ายภาพ ได้กล่าวว่าเมื่อวันอังคารพวกเขาก็ได้ยินเราพูดกันเป็นภาษาจีน และบอกเราว่าพูดได้ดีมาก เพื่อนของฉันนั้นได้กล่าวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นยินดีว่าเธอจะไม่มีวันลืมสีหน้าที่ประหลาดใจของ Sihoo เลย
Sihoo นั่นยิ้มอยู่ตลอดเวลาเมื่อเราจับมือกับเขา และบุคคลสุดท้ายที่ขึ้นมาบนเวทีคือผู้หญิงแก่สูงอายุมากๆ น่าจะอยู่ในราวๆ 70-80 ปีได้ กำลังเดินขึ้นมาอย่างยากลำบากด้วยความช่วยเหลือของลูกสาวของเธอเพื่อที่จะก้าวเดินมาข้างหน้าได้ในแต่ละก้าว Sihoo นั่นเมื่อแรกเห็นเขาถึงกับยืนนิ่งไปเลยกับภาพตรงหน้า และอย่างรวดเร็วเขาก็เดินตรงเข้าไปหาหญิงชราผู้นี้และจับมือของเธอที่ด้านหน้า ก่อนที่จะก้มตัวของเขาเพื่อที่จะได้โอบกอดหญิงชราผู้นี้อย่างช้าๆ ทุกๆคนนั้นซาบซึ้งกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้ากันเป็นอย่างมาก น้ำตาของฉันนั้นไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้เลย มันช่างเป็นภาพที่อบอุ่นและน่าประทับใจอะไรเช่นนี้
ก่อนหน้านั้นฉันก็เห็นหญิงชราผู้นี้เมื่อตอนเช้า ขณะที่เธอนั้นเดินจับมือลูกสาวของเธอที่สถานทีถ่ายทำมาแล้ว และยังมีแม่กับลูกชายตัวเล็กๆ อีกคู่หนึ่งด้วยและเพราะการที่ฉันได้ที่นั่งที่ดีมากๆฉันจึงได้แต่จ้องดู Sihoo ได้อย่างชัดเจนอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยรู้สึกพอเลยจริงๆ^^
เมื่อการจับมือสิ้นสุดลง Sihoo ก็ได้กล่าวขอบคุณทุกๆ คนที่มาให้การสนับสนุนเขาถึงที่นี่ และหวังว่าจะได้พบกับพวกเราอีกครั้งหนึ่ง และเขาก็เดินเข้าไปที่ด้านหลังเวที และในทันทีนั่นเองพวกเราก็พร้อมใจกันตบมือเป็นจัวหวะและตะโกนออกไปดังๆอีกครั้งหนึ่ง และดังขึ้นไปอีก และก็ตามต่อกันไปอีกครั้ง และอีกครั้ง จนในที่สุด Sihoo ก็กลับออกมาอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้ม แต่คราวนี้เขาเตรียมมาเล่นกับเราด้วย และทำท่ายื่นมือมาตรงหน้าราวกับพยายามเหยียดมาทางพวกเราและในที่สุดทุกคนก็เลยวิ่งกรูกันมาอยู่ข้างหน้าขอบเวทีและก็เลยได้จับมือของเขากันอีกรอบก่อนที่ประธานของ JOFC จะมาพา Sihoo ออกไป^^
การได้จับมือเขาเพียงช่วงสั้นๆ และความสุขที่ได้มีโอกาสมาพบกับเขานั้น แม้ทั้งหมดใช้เวลาน้อยกว่า 1 ชั่วโมงเสียด้วยซ้ำ แต่มันคือประสพการณ์ทั้งชีวิต ไม่สำคัญเลยว่าเราจะอายุเท่าไหร่ พวกเราทุกคนต่างทำตัวราวกับเด็กสาวๆที่ตื่นเต้นดีใจกันโดยทั่วหน้า สีหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความสุขอย่างมากมาย
และเมื่อเราออกมาจากห้องจัดงานแล้ว เราจึงพบกับน้องชายของ Sihoo เราก็เลยมายืนถ่ายภาพกับรูปของ Sihoo และน้องชายเขาไปด้วยกัน หลังจากนั้นเราได้ไปต่อกันที่ cafe แห่งหนึ่งและพูดคุยกันไปจนถึง เที่ยงคืนก่อนที่จะกลับไปนอนกันในที่สุด
และสุดท้ายผู้เขียนได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า นี้คือความทรงจำที่สวยงามที่สุดในชีวิตของฉันเลยทีเดียว!
Credit Author : 守厚星天涯比邻@parksihoobar.com, thank you!
เต็มอิ่ม อ่านแล้วมีความสุขมากเลยค่ะ เป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจจริงๆ หวังว่า...สักวันหนึ่ง
ReplyDeleteขอบคุณนะคะ นิกกี้ คงแปลจนมือหงิก แต่อ่านแล้วคงหายเหนื่อยนะคะ ^^
แน่นอนคะ ตัวเองอ่านแล้วก็ทราบทันทีว่าคุ้มค่าที่จะแปลให้พวกเราได้อ่านกัน มันมีทั้งความรู้สึกที่ทำให้อยากจะได้มีโอกาสเช่นนี้บ้าง และความประทับใจในตัวเขา ความภูมิใจที่ได้เป็นแฟนละครของเขา กับผู้ชายที่มีน้ำใจงามคนนี้
Deleteอิจฉาเธอจังเลย ได้เจอทุกปีเลยเหรอเนี๊ยะ ขอบคุณค่ะที่แปลมาให้อ่าน อ่ะ อ่ะ ยอมให้ดื่มกาปูชิโน กับ Sihoo nim หนึ่งครั้ง
ReplyDeleteขอบคุณนิกกี้เช่นกัน อ่านแล้วมีความสุขมาก ๆ เลยค่ะ ^^
Deleteด้วยความยินดีคะ ดีใจที่ทำให้ทุกคนมีความสุขนะ คราวนี้รู้แล้ว ถ้าอยากได้ Hug นะ ต้องคอยจนเป็นคนสุดท้ายแล้วทำเป็นเดินเหินไม่สะดวกนะ ฮิ ฮิ
Deleteพูดเรื่องกาแฟ จริงๆด้วย เราก็คิดถึงแต่ตัวเองว่าชอบทานอะไรเลยใส่อะไรที่ชอบเสียเลย^^