Scent

Scent

Thursday, October 2, 2014

ความทรงจำกับ Park Si Hoo Japan Fan Meeting 2014 ตอนที่ # 1

ในที่สุดก็ได้มีโอกาสมาเขียนบันทึกความทรงจำให้กับตัวเอง และ พวกเราได้อ่านกันบ้างนะคะ อาจจะไม่สามารถครอบคลุมทุกอย่างได้ทั้งหมด แต่ก็หวังว่าข้อเขียนนี้จะพอให้เราได้เห็นภาพเหล่านี้บ้างไม่มากก็น้อย และวันนี้ขอมาเริ่มต้นด้วยวันที่ 27 ก.ย 2014 เมื่อเราได้ไปรับ Park Si Hoo ที่สนามบิน Haneda ร่วมกับเพื่อนๆชาวญี่ปุ่น และหลายชาติด้วยกัน



คณะของเราในวันนี้มี 4 คนด้วยกัน โดยจะขอเรียกชื่อย่อของเรากันไปตามนี้
คือเพื่อน Singapore คือ S และเพื่อนชาวไทยอีก 2 คนคือ A & N

เรานั่งรถบัสกันมาจากที่พักในกรุงโตเกียว มาถึงคิดว่าประมาณ 3:30 pm เห็นจะได้ จริงๆช้าว่าที่เพื่อนชาวญี่ปุ่นบอกกับเราไว้ว่าให้มาถึงประมาณ 3 โมงตรง ก็คงเพื่อให้เราได้ที่ยืนแถวหน้าที่ดีที่สุด แต่เพราะเรามาช้ากว่าที่เขาบอกก็เลยต้องมองหาที่ยืนกันเอาเองก็มาได้แถวที่ 2 เป็นส่วนใหญ่แต่เพราะทราบว่าอย่างไรเขาก็ยังไม่มาถึงจึงไม่ได้รู้สึกซีเรียสอะไร มีที่นั่งให้เราได้นั่งพักกันที่ด้านหลังจากแถวที่แฟนๆยืนกันอย่างเป็นระเบียบ แต่ก็ไม่ค่อยมีใครนั่งกันมากนัก เรียกว่าไม่มีใครยอมลุกให้เสียม้ากันเลย เอ! พูดไม่ถูกสิ ต้องว่าไม่มีใครยอมถอยเพื่อให้เสียที่กันดีกว่า^^



 ในระหว่างที่คอยก็พยายามมองๆหาเพื่อนทั้งชาวจีน และ ญี่ปุ่น แต่เนื่องจาก Wifi ใช่ไม่ได้จึงขาดการติดต่อกับเขา ก็เลยคิดว่าเขาคงจะยืนอยู่ที่ใดที่หนึ่ง แถวนี้หละ ซึ่งเราทั้งหมดก็ไม่มีใครเคยเห็นหน้าค่าตากันเลย มองไปรอบๆ อย่างหนึ่งที่สังเกตุได้ก็คือ  Park Si Hoo นั้นมีแฟนสาวๆที่เรียกว่าสาวจริงๆมากมายที่ญี่ปุ่น กับกลุ่มสาวๆที่อยู่ด้านหน้าของเราและหลายๆจุดจะมีอายุน่าจะอยู่ที่ 25 - 35 ปีกันเยอะ และสาวญี่ปุ่นนั้นเแต่งตัวกันอย่างสวยงาม รองเท้าส้นสูง เสื้อผ้า การแต่งตัวเนียบจากหัวจรดเท้าเลยทีเดียว แต่พวกเขาล้วนแต่น่ารัก มีอัธยาศัยและมารยาทดีกันทุกคน เพราะจากการที่เราต้องส่งภาษาทั้งไทยและอังกฤษพูดคุยกับเพื่อนๆอยู่ที่ด้านหลัง ( เรายืนอยู่แถวที่ 2 ) เขาก็คงจะได้ยินเข้า และด้วยความรำคาญว่ากระเหรี่ยงจากไหนมาอยู่ข้างหลัง เขาก็เลยหันมาถามเราว่าเรามาจากไหน เราก็เลยบอกไป เท่านั้นเขาก็ อู้ ฮู จากโน้นเลยเหรอ และก็เร่ิมสะกิดเพื่อนๆของเธอให้ทราบกัน เราก็เลยคุยต่อเสียเลยว่ายังมีจากเมืองไทยด้วยคนนี้ คนนี้ และจาก สิงคโปร์อีกด้วยนะคนนี้ๆ 555 เขาก็ตื่นเต้นกันใหญ่



หลังจากนั้นเราก็คุยกันถึงว่า รู้จักกับ Park Si Hoo ได้อย่างไร ? จากเรื่องอะไร ? เราก็ตอบเขาไปกว่าจะคุยกันถูกเรื่องเพราะเราก็รู้แต่ชื่อภาษาอังกฤษเขาก็รู้แต่ชื่อภาษาญี่ปุ่น แถมภาษาอังกฤษเขาก็ได้จำกัด แต่เราไม่ได้เลยภาษาญี่ปุ่น ก็คุยกันไปแบบภาษา Park Si Hoo เรารู้ว่าเขาฟังเข้าใจเรามากกกว่าที่จะพูดเราจึงมักยิงคำถามให้ตอบแบบ Yes or No เราก็ถามว่าพวกเขาเป็นสมาชิก JOFC กันหมดเลยหรือ เขาก็ตอบว่าใช่ เขาก็ถามกลับว่าเราเป็นหรือเปล่า เราก็ว่าเราอยากเป็นแต่เป็นไม่ได้เพราะไม่มีที่อยู่ในญี่ปุ่น คนหนึ่งถึงกับบอกว่ามาใช้ที่อยู่ของเธอก็ได้ เราก็ว่าพูดจริงหรือเปล่า เอาจริงๆนะ เธอก็ยืนยันว่าพูดจริง นี้แหละคนญี่ปุ่นน่ารักกันจริงๆ และวงสนทนาของเราก็เร่ิมใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หันไปทางไหนเขาก็เข้ามาทัก Hello กับเรา ส่วนสาว A & N ก็มาเอาผ้าขนหนูที่พิมพ์ภาพของ Park Si Hoo ออกมาถ่ายรูปที่ด้านหลัง เรียกความสนใจจากแฟนๆได้มากมาย และเพราะมีคำว่า Thai fans อยู่ด้วย จึงมีเพื่อนญี่ปุ่น และ จีนเริ่มถามพวกเขาว่ารู้จัก Nikki หรือเปล่า และในที่สุด เราก็ไม่ต้องแคร์เจ้า Wifi อีกต่อไป เพราะเพื่อนๆเราทั้งจีน และ ญี่ปุ่นก็หาเราเจอจนได้ในที่สุด^^

ก็กอดกันด้วยความยินดีที่ได้พบกันเสียที โดยเฉพาะเพื่อนชาวญี่ปุ่นได้มีของที่ระลึกเล็กๆน้อยๆให้กับเราเอาไว้เป็นความทรงจำอีกด้วย ที่สำคัญได้พบกับ Hiro นักทำ MV คนเก่งของเราน่ารักจริงๆทุกคนเลย







เพื่อนชาวจีนก็นำภาพที่เธอเดินทางไปในงานวันเกิดของเขาที่ Buyeo มาให้ดู ก็เล่นเอาพวกเราตื่นเต้นกันไปทั่วทั้งไทยทั้ง ญี่ปุ่น และตามประสาเราที่เป็นคนพูดเล่นไปเสียเรื่อยจึงแซวเขาว่า นี้เอามาอวดเยาะเย้ยกันใช่ไหม ก็เรียกเสียงหัวเราะกันขึ้นมาพร้อมกับคำตอบว่า " ใช่ " 5555

นี้คือบรรยากาศและมิตรภาพที่ได้จากเพียงช่วงเวลาที่เราได้ยืนสนทนาพูดคุยกันก่อนที่เพื่อนญี่ปุ่นที่แสนใจดีอีกคนหนึ่ง ก็มาพาเราไปยืนอยู่อีกที่หนึ่งซึ่งเธอคิดว่าเราจะได้มุมที่ดีกว่าไม่ต้องมายืนแถว 2 อย่างนี้ ช่างน่ารักจริงๆ และหลังจากนั้นก็เป็นอะไรที่จริงจังมากขึ้นเพราะเราต่างคนต่างก็แยกกันหาจุดหรือมุมที่เราคิดว่าดีที่สุดเท่าที่หาได้และปักหลักกันอยู่ตรงนั้นไม่ยอมขยับให้ใครอีกแล้ว มีแฟนมาบอกเป็นช่วงๆว่าเครื่องลงแล้ว ก็เฮ กันที ต่อมามีเจ้าหน้าที่มาบอกว่า ห้ามใช้แฟลช ห้ามยกป้ายใดๆ ( เราก็เลยไม่กล้าใช้ผ้าขนหนูเลยคะ ) และอย่าเสียงดัง อิ อิ



ก็ยืนคอยกันอยู่อย่างนั้นคนก็เร่ิมมากขึ้นทุกทีจากหลายจุดหลายมุมด้วยกัน บ้างก็มากับลูกเล็กๆของเธอ เด็กๆก็ออกมาเต้นๆกระยึกกระแย๊กให้เราดูตรงหน้า ก็เพลินไปกับความน่ารักของพวกเขา ถือเป็นการอุ่นเครื่องก่อนดูหนุ่มผู้น่ารักมาเต้นให้เราดูตรงหน้าในวันพรุ่งนี้^^

สักพักเราก็เห็นว่ามีการเคลื่อนไหวอยู่ที่ทางประตูมากขึ้น เราเชื่อว่า Park Si Hoo นั้นมาอยู่ในบริเวณนั้นแล้ว แต่ยังไม่พร้อมที่จะออกมา สักพักเราก็เห็นเด็กสาวพนักงานวิ่งเข้าวิ่งออก เพื่อมาพาทีมงานและกระเป๋าสัมภาระออกมาก่อน สักพักเธอก็กลับเข้ามาไปอีกพร้อมกับพาคุณแม่ Park ออกมาเป็นคนแรก สวย เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆน่าจะประมาณ​ 150 -155 ซม เท่านั้น ดูสาวกว่าที่ในรูปอีก สักพักเธอก็ตามพวกเขาไปขึ้นรถ และต่อมาผู้จัดการของเขาก็ออกมาพร้อมกับกล้อง พวกเราก็ทราบแล้วว่า Park Si Hoo จะต้องออกมาในทุกวินาทีข้างหน้านี้อย่างไม่ต้องสงสัย ผู้จัดการของ Park Si Hoo นั้นไม่ได้ดูอ้วนหรือน่าเกลียดอะไรเลย น่าตาก็ดูจิ้มลิ้ม น่ารักไปอีกแบบ ดูเหมือนคนไทยเรามากกว่าเกาหลี ถ้าพูดไปนะ แต่เราก็ให้ความสนใจกับเขาไม่ได้นานนัก เพราะเราสนใจอยู่อย่างเดียวเท่านั้นว่าเมื่อไหร่ Park Si Hoo จะออกมาเสียที



จนในที่สุดเราก็ได้ยินเสียงเฮ มาก่อนแต่ไม่ได้มาจากด้านทางผู้โดยสารขาออกดังที่คาด แต่เป็นประตูด้านข้างซึ่งทำให้เขาสามารถที่จะเดินตรงไปในทางเดินที่เตรียมไว้ได้ในทันที ตามภาพที่พวกเราเห็นนั้นแหละ ดังนั้นพวกเราหลายคนที่อยู่ด้านหน้าจึงพลาดกันไปอย่างแรง เพราะมาคอยกันเก้ออยู่ที่ด้านหน้ากันมากมาย แต่อย่างไรเราก็ได้เห็นตัวเขาแล้วอย่างชัดๆ หนุ่มตัวขาวๆราวกับใบหยวก กับเสื้อแจ๊กเก๊ตสีขาวขลิบดำคลุมหัวตามสูตรกับแว่นตาดำของเขา ซึ่งยิ่งขับให้ใบหน้าขาวๆของเขานั้นดูโดดเด่นขึ้นมาอีก แฟนบางคนโชคดีได้จับมือกับเขา แต่ก็ยังถือว่าเขาเดินไวมากเพียงแป๊ปเดียวก็ไปอยู่ที่ปลายอีกด้านหนึ่งเสียแล้ว แต่ Park Si Hoo ก็คือ Park Si Hoo ในทันทีที่เขามาถึงจุดสุดท้ายก่อนที่เขาจะหายลับตาไป จึงได้หันมาโบกมือให้กับพวกเราทุกๆคน และเราก็ได้โบกมือตอบเขาไปพร้อมกับเสียงเชียร์ด้วยความดีใจดังกระหึ่มขึ้นมาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ร่างของเขาจะลับหายไปในที่สุด



กับการรอคอยนานกว่า 3 ชั่วโมง  ( แฟนบางคนบอกว่า กว่า 5 ชั่วโมง ) กับการได้เห็นตัวเขาเพียงไม่ถึง 15 วินาทีคุ้มไหมหรือ แน่นอนยังไม่คุ้มหรอกกับการเดินทางมาไกล แต่สำคัญไหมที่จะมายืนอยู่ที่ตรงนี้เพื่อเขา เราเชื่อว่าสำคัญ เราต้องการให้กลุ่มแฟนมีจำนวนมากที่สุดที่จะมากได้เพื่อต้อนรับเขา ให้สื่อมวลชนมาให้ความสนใจกับการเดินทางมาของเขาทั้งจากในประเทศญี่ปุ่นเอง และ ในเกาหลี



ในที่สุดเราทำได้แล้ว เพื่อเขา และเป็นครั้งแรกที่ในที่สุดก็ได้มาพบกับเขา ตัวจริง เสียงจริง ( เสียงกรี๊ดนะ ) ได้พบเพื่อนๆมากมาย ได้มารับทราบกับบรรยากาศของการรอคอยการมาของเขา เราทุกคนต่างก็มีความสุขกันโดยทั่หน้า ทุกๆคนมีแต่รอยยิ้ม เมื่อเขาไปแล้ว มีแฟนหลายคนต่างก็มานั่งกันเพื่อเช็คภาพที่พวกเขาถ่ายกันเอาไว้ว่าออกมาเป็นอย่างไร และก็ดูเหมือนว่าแต่ละคนคงพอใจกันไม่มากก็น้อย เพราะเมื่อพวกเขาเงยหน้าขึ้นมาต่างก็มีแต่รอยยิ้มของความสุขกันทุกๆคนไป พวกเราเองต่างก็มีความสุขกัน เราทุกคนต่างก็พูดกันว่าเขานั้นไม่เพียงแต่ขาว สวยงามเท่านั้น แต่มันราวกับมีอะไรเปล่งออกมาจากข้างใน พลังอะไรบางอย่างที่ทำให้เขานั้นดูช่างพิเศษแตกต่างไปจากคนอื่นๆเสียนี้กระไร คืนนี้เราคงจะกลับไปนอนฝันดีถึงหนุ่มตัวขาวๆคนนี้กันโดยทั่วหน้าหละกระมัง^^

ขอส่งท้ายด้วย VDO จากเพื่อนของเรา Hiro คะ


credit : green hiro, thanks!

แล้วมาต่อกันกับการปรากฏตัวของเขาในงาน  Fan meeting รอบที่ 1 กันคืนพรุ่งนี้นะ

ขอให้หลับฝันดีถึงหนุ่มเกาหลีผิวขาวกันทุกๆคนนะ ขอบคุณ

จาก Nikki , Nut และ Aan คะ

6 comments:

  1. อิจฉาพวกนางทุกคนเลย กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดซาหลบ

    ReplyDelete
    Replies
    1. คืนนี้จานอนฝันถึงเลยค่า ขอบคุณค่าที่มาเล่าให้เราฟังค่ะ^^

      Delete
    2. ด้วยความยินดีคะ เร่งไปนิดเก็บรายละเอียดไม่หมด แต่คิดว่าส่วนนี้คงไม่สำคัญเท่าในงาน Fan meeting นะ เอาไว้ตอนที่ 2 จะทำให้ดีกว่านี้คะ^^

      Delete
    3. จ้า จารอ่านตอน 2-3-4-5-6-7-8-9 lm เอาเสื่อมาปูรอป่าวค่ะ

      Delete
    4. งานไม่ต้องทำแล้วหละ ถ้างั้นก็ ลาพักร้อนไปเลยแล้วกัน

      Delete
    5. ขอบคุณค่ะนิกกี้ (แหะๆ แอบหลับ...เพิ่งตื่น) ชอบมาก ๆ เลย อ่านแล้วรู้สึกดีจังค่ะ เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยชั่วขณะ ตื่นเต้น แล้วก็อยากจะอ่านตอนต่อไป (555...ลาพักร้อนๆๆๆ เห็นด้วย อิอิ) จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ นิกกี้ไปเขียนหนังสือขายเถอะ เขียนเรื้่องเขานี่แหล่ะค่ะ เย้ๆๆๆๆ บอกได้คำเดียวว่าอ่านแล้วมีความสุข มีลูกฮาอีกต่างหาก...แถมเพื่อน ๆ ชาวญี่ปุ่นก็น่ารักมาก ๆ เลย ดีจังเลยค่ะ ได้เจอกับ Hiro ด้วย ว๊าวววว ^^ การที่ได้นั่งรอใครสักคนเป็นเวลานาน ๆ ด้วยความใจจดใจจ่อ...ตอนที่เขาออกมา แล้วได้เห็นเขา ถ้าเป็น lm หัวใจต้องพองออก พองออกมาแน่ ๆ เลยค่ะ....ขอบคุณอีกครั้งนะคะนิกกี้

      Delete