Scent

Scent

Wednesday, January 29, 2014

News : PSH เจ้าชายเกาหลีแห่งเอเชีย กับเรื่องราวที่ไม่มีที่สิ้นสุดของเขา : "Asian Korean Prince" PSH with his never ending story ( Part # 1 )

* NK : พวกเราคะ นี้เป็นข่าวชิ้นหนึ่งที่ยาวมากๆจนต้องนำมาตัดตอนเป็น 5 ตอนด้วยกัน พร้อมกับภาพประกอบข่าวทั้งสิ้น 33 ภาพด้วยกัน จึงยิ่งทำให้เรื่องดูยาวเข้าไปอีก โดยสรุปคือการเล่าถึงประวัติของ Park Si Hoo ตั้งแต่ครั้งที่ยังเป็นเด็กอยู่ในเมือง Buyeo จนมาถึงช่วงปัจจุบันที่เขาได้มาถ่ายทำหนัง Scent ในประเทศจีน และ จากตามชื่อของข่าว ก็พอจะทำให้เราทราบได้ว่า ข่าวนี้ดูจะให้ความรู้สึกที่ดีมากกว่าเสียดังที่เคยเป็นมา ฉนั้นจึงมีค่าควรที่จะมาแปลให้อ่านกัน แต่เนื่องจากความยาวที่ดูจะไม่มีที่สิ้นสุดเช่นนี้เช่นกัน จึงจะขอแปลเอาแต่ข้อความสั้นๆ ซึ่งจริงๆแล้วก็เรียกว่าเราแฟนๆของ Park Si Hoo นั้นก็ทราบกันดีอยู่แล้วหละว่าอะไรเป็นอะไร ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องใหม่สำหรับพวกเราเสียเลย แต่ก็ยังอยากเอามาลงอยู่ดีนะ เอาหละคะ พร้อมหรือยัง ไปยืดเส้นยืดสายเสียหน่อยนะ ยาวแน่ๆ และอาจจะไม่ได้ใช่เวลาเพียงแค่ 1 วันที่จะแปลออกมาให้ได้หมดนะ ขอบอกล่วงหน้าไว้ก่อนหละ^^

Link news : http://news.nate.com/view/20140128n00119



แววตาที่ดูจะแตกต่างกันออกไปเสมอ

คลื่นลูกใหม่ของเอเชีย Park Si Hoo ผู้ที่หล่อหลอมตัวเองขึ้นมาจากการแสดงที่เยี่ยมยอด การขยายขอบเขตการแสดงให้กว้างออกไป นัยน์ตาของเขานั้น บางครั้งก็ดูเย็นราวกับน้ำแข็ง บางครั้งก็ดูร้อนรุ่ม และบางครั้งก็ดูช่างน่าเวทนา กับดวงตาที่ช่วยส่งเสริมการแสดงของ Park Si Hoo เช่นนี้นั่นเอง ที่เป็นการปักหลักวางฐานให้กับชีวิตในวงการบันเทิงของเขาอย่างแท้จริง แต่จริงๆแล้ว ไม่เพียงแต่แววตาของเขาเท่านั้นที่คอยเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่มันเป็นเพราะบุคลิกที่หลากหลายของเขาอีกด้วย  จนในบางครั้งผู้คนถึงกับต้องถามตัวเองว่าเขานั้นกำลังคิดอะไรอยู่ข้างใน " มันดูแตกต่างออกไปเสมอ ไม่เคยเลยที่จะเข้าใจในตัวเขาได้อย่างสมบูรณ์เสียทีเดียวสักครั้ง "  ดังนั้นจึงทำให้คนมากมายต้องการที่จะรู้จักเขาดียิ่งขึ้นไปอีก

หลังจากการหยุดพักไประยะหนึ่ง เขาก็กลับมาอีกครั้งกับงานหนัง " Scent " เมื่อเดือนธันวาคม 2013  ซึ่งถือเป็นการประกาศการกลับมาอย่างเป็นทางการของเขาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อสื่อมวลชนถามเขาว่าเขานั้นกังวลบ้างไหมกับความโด่งดังของเขาที่อาจลดน้อยถอยลง เขากลับตอบอย่างเปิดใจว่า " เขานั้นมีความสุขอยู่กับปัจจุบันตามที่มันเป็น "

สำหรับนักแสดงแล้วเวลามาพักที่ยาวนานกว่าครึ่งปีถือว่าไม่ใช่ช่วงสั้นๆเลย แต่ Park Si Hoo นั้นไม่ได้มีความกลัวหรือวิตกกังวลใดๆเลย ในทางตรงกันข้ามในครั้งนี้ เขากลับทำให้ตัวเองสามารถหาหนทางที่กลับมาอย่างสะดวกสบายใจเป็นที่สุด ในช่วงเวลาที่ขาดหายไปมันได้เปิดโอกาสให้เขาได้เห็นคุณค่าของแฟนๆของเขาว่าสำคัญต่อเขาเช่นไร และตระหนักถึงชีวิตที่โหดร้ายกับอาชีพของนักแสดงสักคนหนึ่ง มันทำให้เขาได้ตระหนักขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งว่าอาชีพนี้นั้นสำคัญมากมายแค่ไหนต่อตัวของเขาเอง

ความฝันที่จะเป็นนักแสดงค่อยๆเริ่มต้นมาตั้งแต่เยาว์วัยในหมู่บ้านเล็กๆของเขา



ภาพพจน์ที่ดูเป็นดูเป็นธรรมชาติ มักรับบทของคนที่มีฐานะร่ำรวย ทำให้เขานั้นมักได้รับบทของคนมีอันจะกินอยู่เสมอ นั้นคือภาพพจน์ที่ผู้คนรู้สึกเกี่ยวกับ Park Si Hoo จนดูเหมือนว่าเขานั้นคงไม่เคยรู้สึกถึงความยากลำบากในขณะที่เติบโตขึ้นมาเลย แต่อดีตของเขานั้นจริงๆแล้วไม่ได้เป็นดังที่เราคาดกันเลย เขานั้นไม่ได้เติบโตมาจากชีวิตในเมืองใหญ่โตเลย แต่เขานั้นเกิดและเติบโตขึ้นมาในเมืองเล็กๆที่เรียกว่า Buyeo -เด็กบ้านนอกคนหนึ่งในเขต Chungnam

เขาชอบที่จะเป็นตัวของตัวเอง เขาจึงตัดสินใจออกมาจากเขตชนบทที่คุ้นเคย และ มาอาศัยอยู่กับเพื่อนในกรุงโซล โดยไม่ขอการความช่วยเหลือใดๆจากพ่อ-แม่ของเขาเลย อนาคตที่ยังหาความแน่นอนไม่ได้ ชีวิตต้องขึ้นอยู่กับตัวของเขาเอง มีเพียงความเชื่อมั่นว่าวันหนึ่งเขาจะต้องประสพความสำเร็จ เขาจึงทำงานทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในช่วงนั้น


อดีตของ Park Si Hoo นั้นไม่มีใครทราบได้ถ้าดูจากฐานะและชื่อเสียงของเขา แต่ในความจริงแล้วก่อนที่เขาจะมาเป็นที่รู้จักของผู้คนโดยทั่วไปนั้น เขาต้องใช้เวลากว่า 10 ปีอย่างคนไร้ชื่อเสียง แสดงละครเวทีอยู่กับทีมของมหาวิทยาลัย เดินแจกใบปลิว ไปติดตามที่สาธารณะต่างๆ เขาทำอยู่อย่างนั้นจนถึงช่วงปลายๆของปี 90 ก่อนที่จะค่อยๆเริ่มมามีงานละครบนเวทีกับเขาบ้าง จากบทตัวประกอบเขาก็ค่อยๆไต่เต้ามาเรื่อยๆ และนี้คือหนทางของ Park Si Hoo ขณะที่นักแสดงอายุราวๆ 20 ปีกว่าๆหลายคนนี้คือช่วงที่จะเริ่มหาเงินทองได้อย่างเป็นกอบเป็นกำแล้วกับการรับงานหนังมากมาย แต่ความมุ่งมั่นของเขานั้นกลับขึ้นอยู่กับการคัดเลือกมองหาบทดีๆที่จะแสดง ขอเพียงเป็นบทดีๆอะไรก็ได้ เพื่อที่เขาจะค่อยซึมซับสร้างความประทับใจของเขาต่อผู้ชมไปอย่างช้าๆจนกว่าพวกเขาจะจดจำเขาได้ในที่สุด

นิสัยที่ถูกขัดเกลามาอย่างดีย่อมแสดงถึงการมาจากครอบครัวที่มีสกุล



ด้วยความรักในงานแสดงที่ไม่เหมือนใครๆ Park Si Hoo เริ่มต้นการแสดงด้วยความช่วยเหลือของน้องชายของเขาที่ต่างต้องทนหนักเอาเบาสู้มาด้วยกัน ในช่วงที่ไม่มีบริษัทตัวแทนเขาต้องทำทุกอย่างด้วยตัวของเขาเอง เพื่อที่จะก้าวไปสู่ความฝันของเขาให้จงได้ ก็มีแต่เพียงน้องชายของเขาเท่านั้นที่คอยช่วยเหลือเขาอย่างมากมาย  และน้องชายอดีตนักกีฬาเบสบอลมืออาชีพคนนี้ก็ได้เปิดตัวบริษัทของพวกเขาขึ้นมาในที่สุด จนถึงปัจจุบันนี้ น้องชายของเขาก็ได้ยืนหยัดอยู่เบื้องหลังของ Park Si Hoo เสมอมา และเขาก็ได้น้องชายของเขานี้แหละที่เป็นราวทั้งแขนและขาให้กับเขา ต่างฝ่ายต่างก็ยืนหยัดอยู่เพื่อกันและกันราวกับเป็นทั้งเพื่อนและตัวแทนของเขาไปพร้อมๆกัน

ขณะเดียวกัน พ่อของ Park Si Hoo นั้นก็เป็นที่ทราบดีว่าเขาเคยเป็นนายแบบแฟชั่นรุ่นแรกมาก่อน พ่อของเขานั้นเคยเป็นนายแบบให้กับร้านเสื้อผ้า และ โฆษณาต่างๆมากมายในช่วงปี 1960-1970  ทั้งงานถ่าย โยเกิตและเครื่องดื่มมากมายกว่า 60 ชนิด และกล่าวได้ว่าพ่อของเขาเองนั้นก็ถือได้ว่าโด่งดังได้รับความนิยมอย่างสูงทีเดียวในช่วงนั้น

Park Si Hoo เคยบอกกับนักข่าวในช่วงให้สัมภาษณ์่ว่า เขานั้นได้รับอิทธิพลอย่างมากมาจากพ่อของเขา พ่อที่รูปงาม เป็นอดึตนายแบบ และมีแม่ที่สวยมากคนหนึ่ง แถมยังมีน้องชายที่เล่นกีฬาเบสบอลได้อย่างยอดเยี่ยมมากอีกด้วย นั้นคือครอบครัวที่มีคุณภาพของเขา

ยิ่งไปกว่านั้น ในวันที่ 10 ธันวาคมปี 2012 ในรายการของ SBS ชื่อ " Healing camp " เขาได้กล่าวว่า " เนื่องจากว่าเขามักปรากฏตัวในบทของคนที่มาจากตระกูลที่ร่ำรวยระดับ Chaebol ถึง 2 เรื่องด้วยกัน และโดยความเป็นจริงแล้วเขานั้นเองก็มาจากครอบครัวที่มีฐานะที่มั่งคั่งครอบครัวหนึ่งเช่นกัน

Park Si Hoo ใช้่ช่วงชีวิตในวัยเด็กของเขาในเมือง Buyeo ตามแบบเด็กในครอบครัวที่มีอันจะกินครอบครัวหนึ่ง แต่เพื่อที่จะต้องการมาเป็นนักแสดงเขาจึงเดินทางเข้ามาที่กรุงโซล และได้พบกับประสพการณ์ชีวิตที่ยากลำบากในห้องพักเล็กๆแคบๆอยู่ตามลำพัง

Park Si Hoo เริ่มฉายแววความเป็นดาวของเขาในละคร " Prosecutor Princess "



Park Si Hoo เริ่มได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นก็มาจากงานในละครเรื่องนี้



จากชีวิตในงานละครเวทีที่มหาวิทยาลัยนั้น เขาก็เริ่มต้นต่อมาด้วยบทตัวประกอบเล็กๆ จนกว่าจะมาถึงการก้าวเป็นดาราอย่างเต็มตัวจากงานละคร TV เรื่อง " Prosecutor Princess "

กับบทบาทที่หลากหลายในมาดของทนาย Seo  ซึ่งเขาได้แสดงบุคลิกที่ดูนิ่งๆแต่เต็มไปด้วยความคิดที่ลึกซึ้ง และกับบุคลิกที่ดูอ่อนโยนภายนอกแต่แข็งแกร่งอยู่ภายใน ด้วยบทบาทที่แตกต่างกันเหล่านั้น จึงทำให้เขาได้ทิ้งความประทับใจต่อผู้ชมไว้ได้อย่างมากมาย

Park Si Hoo แสดงในบทของหนุ่มซนๆ ที่คอยวนเวียนอยู่รอบๆตัว Ma Hye Ri  ได้สร้างความน่าสนใจและจับใจผู้ชม จนต่างเริ่มที่จะมองเห็นดาวรุ่งดวงใหม่ของเกาหลีใต้กำลังเกิดขึ้นมาจนทำให้เขานั้นเริ่มได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมาก

อัยการสาวที่ทำตัวราวกับเจ้าหญิง และ เพื่อนบ้านที่คอยตามดูแลเอาใจใส่เธออย่างไม่มีที่ติ รวมทั้งการแสดงอันสมบูรณ์แบบต่างๆที่ปรากฏออกมาทำให้เขาเริ่มมีภาพพจน์ของผู้ชายที่ดูสมบูรณ์แบบไปเสียหมด

และเรื่องนี้เป็นละครเรื่องแรกที่เขาเริ่มถูกตั้งชื่อต่างๆมากมาย ซึ่งแสดงถึง " การแสดงความรัก ความสนับสนุนที่อบอุ่นได้กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นแล้วในที่สุด "

กับบทในละคร Queen of Reversal : " ผู้ชายที่ผู้หญิงต้องการให้ท่า "



กับละครช่วงหน้าหนาวในปี 2010 ของวันจันทร์-อังคาร " ตำแหน่งอันดับที่หนึ่ง ได้ถูกทิ้งไว้ในช่วงท้ายของละครอย่างหลวมๆกับละครเรื่องนี้ " และจุดศูนย์กลางทั้งหมดก็มาจับอยู่ที่ Park Si Hoo "

ในละคร Prosecutor Princess เขาได้แฟนมากมายในวัย 20 ปีเศษๆ และในละคร Queen of Reverssals เขาก็ได้แฟนในวัยตั้งแต่ 40 ไปจนถึง 70 ปีเรียกว่าเป็นการเปิดขยายขอบเขตของแฟนๆของเขาให้กว้างขวางออกไป และผู้หญิงทุกเพศทุกวัยต่างก็รักเขากันอย่างมากมาย

ในละครเรื่องนี้เขาแสดงในบทของ Goo Yong Shik เขานั้นได้รับความรักจากแฟนๆผู้หญิงมากมายด้วยบทบาทการแสดงที่มีเสน่ห์จนมัดใจผู้หญิงที่หนักแน่นคนหนึ่งให้สั่นคลอนลงได้



 Romeo & Juliet ในยุค Joseon กับละคร " The Princess's Man "



Park Si Hoo คือนักแสดงผู้เต็มไปด้วยความรักในการแสดงและไม่เคยรู้จักกับคำว่าเหน็ดเหนื่อยกับการแสดง จากละคร Prosecutor Princess มาประสพความสำเร็จต่อเนื่องด้วย Queen Of Reversals " และความหวังที่จะได้พักผ่อนก็ต้องหยุดลงด้วยการรับงานต่ออีกครั้งกับงานละคะร "The Princess' Man "

ความมั่นใจกับบทของ Kim Seung Yoo นี้เองเขาจึงตัดสินใจที่จะมีช่วงพักเพียงสั้นๆเท่านั้น เมื่อช่วงโอกาสมาถึงเขาย่อมเห็นมันมีความสำคัญกว่าการพักผ่อนเมื่อมีงานดีๆเข้ามา ดังนั้นเขาจึงรับโอกาสนี้เพื่ออนาคตของตัวเอง และกลับมารับงานแนวอิงประวัติศาสตร์เพื่อที่จะไม่ปล่อยโอกาสที่ดีให้หลุดลอยไป

ดังนั้นละครในช่วงวันพุธ และ พฤหัสของค่าย KBS2 เรื่อง " The Princess' Man " ซึ่งเป็นเรื่องราวความรักเชิงโศกนาฏกรรมในแบบ Romeo & Juliet จึงเกิดขึ้นท่ามกลางการแก่งแย่งราชบัลลังค์และการกำจัดศัตรูที่เป็นฝ่ายตรงข้ามให้หมดไป …

~ กรุณาติดตามตอนที่ 2 เป็นตอนต่อไป ….

Credit : news@wstarnews.com, thank you!

3 comments:

  1. ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆจ้ะnikki...ยาวววววววววววววมากเจงๆๆ
    มีความสุขเสมออออที่ได้อ่านเรื่องราวของพุชายคนนี้ และความรักก้อ+++++++++++++++++++++มหาศาลลลลลลลลลลลลลลู^_^

    ReplyDelete
    Replies
    1. Me too และความรักของเก๊าก้อ++++++++++++++++++++เหมือนกันจ้า
      ยาวดีอ่านเพลินเลย

      Delete
    2. สวัสดี และ ขอบคุณคะ : นี้เป็น 1 ใน 5 เท่านั้นคะ โปรดรอต่อไปกว่าจะอ่านจบ หนัง scent เข้าโรงจนออกโรงไปแล้วนั่นแหละ^^

      Delete