Scent

Scent

Thursday, July 26, 2012

นักแสดงหน้าใหม่ Park Si Hoo ใน Elle 2008

บทสัมภาษณ์โดยนักข่าวจาก นิตยสาร Elle ในปี 2008 ขณะที่เขามีงานแสดงในละคร Iljimae อยู่

* เนื่องจากไม่มีภาพถ่ายของ PSH ระหว่างการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ เราจึงได้นำภาพในช่วงของปี 2008 แต่ในวาระโอกาสที่แตกต่างกันมาใช้แทน กรุณารับทราบตามนี้ด้วย



ยังมีความท้าทายอีกมากที่รอเขาอยู่สำหรับ Park Si Hoo

นักแสดงคนหนึ่งผู้ที่ได้ฝ่าฟันมาจนถึงสถานภาพที่ถูกห้อมล้อมราวกับว่าเขาเป็นเจ้าชายหนุ่มของทุกๆคนก็ไม่ปาน พร้อมกับคำพูดที่ได้ยินอยู่เสมอว่า " นั้นเขาหรือ " และคนผู้นั้นก็กำลังได้รับความสนอกสนใจอย่างเต็มที่หลังจากต้องใช้เวลากว่า 10 ปี ก่อนที่จะได้มาแสดงในละครฮิตที่โด่งดัง (Iljimae) คุณอยากทราบไหมว่าเขาคือใคร ? เขาคือ Park Si Hoo แตกต่างจากครั้งแรกที่ได้พบที่ดูบอบบาง คมสัน จริงๆแล้วเขาเป็นคนที่ร่าเริง คอยกล่าวขอบคุณผู้ร่วมงานอยู่เสมอ คอยนำอาหารมามอบให้กับนักข่าวที่เหนื่อยล้า และ การพูดติดตลกออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เช่น " เพราะคุณดูจะเป็นกังวลกับการออกกำลังกายและมีสุขภาพชีวิตที่ดี ผมเดาว่าคุณต้องมีอายุยืนแน่นอน " ( เป็นการพูดประชดในเชิงขำขันว่า ถ้ากังวลกับมัน แต่ไม่ได้ทำอะไรกับมัน (ออกกำลังกาย) ก็คงจะมีอายุยืนสมใจอยู่หรอก )

Q : ก่อนจะเริ่มรับงานแสดงจริงๆ คุณคงจะมีจินตนาการที่เลิศลอยกับการเป็นนักแสดงอยู่บ้าง จริงๆแล้วตอนนั้นคิดอย่างไรกับมันหละ ?

A : แรกๆ ผมก็คิดถึงมันแบบหลวมๆ โดยคิดว่าเมื่อคุณเริ่มงานแสดง คุณก็คงจะได้งานใน TV ทำและสร้างชื่อให้กับตัวเองอะไรอย่างนั้น นั้นคือความคิดของผม แต่ยิ่งนานเข้า นานเข้า ผมก็พบว่ามันยาก มากขื้นและห่างไกลจากที่คิดไว้ขึ้นทุกที คุณเห็นไหมหละ ?  ในอดีตเมื่อผมไปลองเทสหน้ากล้อง ผมจะสั่นไปหมด โดยปราศจากเหตุผลใดๆ ผมไม่ได้แสดงอะไรที่เป็นตัวของผมเองเลยหรืออาจจะเป็นเพราะผมตื่นกลัวกับบรรยากาศในขณะนั้น มันยากมาก เพราะผมไม่สามารถควบคุมกับอารมณ์ของตัวเองๆได้ ผมจึงคิดว่าน่าจะลองมุ่งไปที่งานแสดงที่ไม่ต้องมาลองหน้ากล้องอย่างนี้อีก ผมบอกกับตัวเองเสร็จโดยไม่มีแผนอะไรอยู่ในใจ แล้วจึงโทรไปที่โรงละครเล็กๆแห่งหนึ่งและเริ่มงานบนเวทีนับตั้งแต่นั้นมา



Q : คุณถือว่าตัวเองเป็นคนที่ใช้ชีวิตค่อนข้างอิสระไหม ?

A : ผมออกมาใช้ชีวิตตามลำพังตั้งแต่จบจากม.ปลาย พ่อของผมใช้ชีวิตอยู่กับการเป็นนายแบบแฟชั่น บางครั้งก็รับงานโฆษณาด้วย แต่ปู่ของผมไม่เห็นด้วยกับชีวิตแบบนั้น หมู่บ้านของผมอยู่แถว Buyeo และปู่ของผมก็กดดันให้พ่อของผมกลับมาดูแลบ้านของตระกูล นั้นคือเหตุผลที่พ่อของผมปล่อยให้ลูกชายของพ่อทำอะไรก็ได้ที่เราอยากทำ

Q : บ้านมีขนาดใหญ่มากนักหรือถึงกับต้องมีคนคอยดูแลจัดการขนาดนั้น ?

A : อือ... ฮา ฮา ฮา คุณพอจะนึกออกไหมกับลักษณะบ้านทรงเกาหลีแบบโบราณที่มีขนาดใหญ่ ?  เดาออกไหม ประเภทบ้านของพวกชาวนาที่พอมีอันจะกินหน่อย ภูมิใจหรือ?  ตอนนี้อาจจะเอามาเป็นเรื่องคุยโม้แบบไม่ตั้งใจได้อยู่ ฮา ฮา ฮา อย่างไรก็ตาม ตอนนี้บ้านเก่ามากแล้ว พ่อต้องคอยดูแลซ่อมแซมมันอยู่ตลอดเวลา


Q : เมื่อคุณเป็นเด็กๆ คุณเป็นนักเรียนแบบไหน ?

A : ผมเป็นเด็กเงียบๆ ผมไม่ชอบอยู่ต่อหน้าผู้คนและผมจะอยู่ตามลำพังเป็นส่วนใหญ่ เพื่อนๆที่โรงเรียนแทบจะทุกคนชอบไปเล่นฟุตบอลกัน ผมจะไปอีกทางหนึ่งฝึกยกบาร์หรือเล่นบาร์คู่เพื่อฝึกกล้ามเนื้อของผม คอยคิดกับตัวเองอยู่เสมอว่า ทำไมไม่ฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรงแทนที่จะวิ่งไปรอบๆในเวลาที่มีแสงแดดที่แรงกล้าอย่างนั้น

Q : อย่างนี้ พวกเพื่อนๆไม่ได้ให้ความสนใจกับคุณหรือกับการแยกตัวเองออกไปอย่างนั้นที่โรงเรียนหนะ ?

A : ไม่หรอกครับ ถ้าไม่นึกถึงตรงจุดนั้นผมก็ค่อนข้างจะดังอยู่นะที่โรงเรียน ไม่ด้วยเหตุผลใดก็เหตุผลหนึ่ง โอ๊ว .. นี้อาจจะเป็นเรื่องอวดโม้ได้อีกเรื่องหนึ่งนะ ^^

Q : รูปหล่ออย่างคุณนี่ พอที่เราจะมาคุยกันหน่อยได้ไหมเกี่ยวกับสาวๆในละแวกบ้าน มีสาวๆมาตามคุณอยู่บ้างไหม ?

A : อีกแล้ว ผมจะพูดอย่างไรดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ ?  ถ้าผมพูดไป ก็จะหาว่ามาคุยโม้โอ้อวดอีก ฮา ฮา ฮา

Q : อ้อ คุณหมายความว่า คุณไม่เป็นคนโปรดของสาวๆเขาสักเท่าไหร่สินะ ?

A : ฮือ .... ผมก็ไม่ได้เป็นในทางด้านไม่น่าสนใจเสียทีเดียว ก็แค่พวกเขาจะรู้เบอร์รองเท้าที่ผมใส่ หรือ หน้าอก ... อะไรทำนองนั้น

Q : ใช่เลย คุณนะขี้โอ่จริงๆด้วย

A : ฮา ฮา ฮา เฮ้ ! ผมบอกแล้วว่าผมไม่อยากพูดเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของผมสักเท่าไหร่นะ



Q : ตอนนี้ ผมจะให้คุณพักบ้าง อะไรคือทัศนคติของคุณเกี่ยวกับการแสดง ?

A : การวิ่งไล่ตามงานชิ้นหนึ่งไปสู่อีกชิ้นหนึ่ง ผมค้นพบว่าตัวเองได้เติบโตและเรียนรู้เพิ่มมากขึ้นทุกที นี้คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของการแสดง การมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนักแสดงคนอื่นๆ กับผู้กำกับ กับทีมงานทุกๆคน มันเหมือนกับว่าผมต้องเรียนรู้มันไปตลอดชีวิตของผม เพราะเหตุนั้น ผมจึงมีความคาดหวังให้กับตัวเองอยู่เสมอ เพราะผมเชื่อว่ายังมีอะไรอีกมากมายของผมที่ยังไม่มีโอกาสได้แสดงออกมา ผมฝันเสมอถึงภาพในอนาคตข้างหน้า และเบื้องหน้าต่อไปเรื่อยๆ ... อย่างเช่น ผมควรจะพูดอะไรเมื่อจะไปรับรางวัลการแสดงในครั้งต่อไป ?  ความคิดนึกในลักษณะนี้ ? จะปรากฏขึ้นมาและผ่านไป แต่ไม่ใช่จะคิดเกี่ยวกับมันอยู่ตลอดเวลานะ

Q : คุณช่างมีจินตนาการซะเหลือเกินนะ ? อย่างนี้อาจมีข่าวใน Internet ออกมาว่า " Park Si Hoo กำลังฝึกคำพูดตอนรับรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมครั้งต่อไปอยู่ที่บ้าน "

A : ก็เป็นอย่างนี้หละ ดีแล้วที่คุณเอ่ยออกมา การให้สัมภาษณ์แบบนี้เป็นอะไรที่ยากจริงๆนะ แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างนี้ก็จะไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ โดยเฉพาะกับกระแสข่าวที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ เช่น พวกเขาจะสนใจไปเสียหมดทั้งเรื่องเสื้อผ้า รองเท้า และอะไรก็ตามที่คุณสวมใส่

Q : ขณะที่คุณกำลังอยู่ในระหว่างการถ่ายภาพ (ให้กับนิตยสาร) ผมเห็นคุณดูจะเป็นกังวลกับเสื้อผ้าอยู่มากทีเดียว มีชิ้นไหนที่คุณเสียใจทีหลังเมื่อซื้อไปแล้วไหม ?

A : ผมซื้อหมวกบ่อยมาก ผมมีประมาณ 50 ใบกองอยู่ที่บ้าน ปัญหาก็คือ ผมใช้มันอยู่แค่ 2-3 ใบเท่านั้น ผมรู้สึกดีเมื่อได้แต่งตัวแบบง่ายๆแบบนี้ ซึ่งแตกต่าจากในละครที่ผมต้องใส่เสื้อผ้าแบบชนิดเต็มยศ

Q : คุณดูดี ในเสื้อผ้าแบบนั้น

A :  ฮืม .. ขอบคุณครับ ฮา ฮา ฮา

Q : เงียบ ไม่ตอบรับอะไรเลยกว่า 30 วินาทีแล้วนะ จะไม่คุยโอ่ตัวเองเพิ่มอีกหรือ ?  อย่างเช่นว่า " ผมมันเป็นคนหุ่นดี อะไรอย่างนั้นนะ ... "

The end !

credit : www.parksihoo.com


4 comments:

  1. วุ้ยย พ่อคนขี้โอ่ กำลังหนุกเลยค่ะนิกกี้ ทำไมสั้นกุดอย่างนี้หล่ะคะ
    ตอนนั้นเค้ายังไม่เปล่งประกาย ยังจืดอยู่มั่ง
    แต่ตอนนี้เค้าเป็นที่เสน่หาของสาวๆเยอะเลย
    รับละครใหม่ทีเถอะ อยากเพ้อหาอีกแล้วนะ

    ReplyDelete
  2. ก็ไม่ทราบคะ มันมาสั้นๆอย่างนี้เอง แรกๆก็ไม่แน่ใจว่าจะแปลให้อ่านกันดีไหม
    แต่เห็นว่ามันมีอะไรที่น่าสนใจ และ น่ารักดี โดยเฉพาะอารมณ์ขันของเขา

    ReplyDelete
  3. ดีใจนะคะที่คุณนิกกี้ตัดสินใจแปลมา บทสัมภาษณ์นี้ทำให้ชอบพี่ปาร์คเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเค้ามีความทะเยอทะยาน มีความคิด มีความพยายาม ทั้งยังจิตใจดี เอาใจใส่คนรอบข้างเสมอ ทำให้รู้สึกว่าเหมาะแล้วที่จะเป็นที่ชื่นชอบ ชื่นชมของทุกคน ขอบคุณอีกครั้งสำหรับการทำBlogนี้นะคะ Enjoy your it so much ^o^

    ReplyDelete
  4. @Emmett, ขอบคุณคะสำหรับคำชม และ Feedback อย่างนี้ นิิกกี้เชื่อเช่นกันว่าถ้าใครที่ชื่นชอบในผลงานของเขาและได้มาอ่านบทสัมภาษณ์อย่างนี้แล้ว จะต้องประทับใจและรักเชามากขึ้นไปอีก และนี้คือเหตุผลเดียวจริงๆที่นิกกี้ทำ Blog นี้ขึ้นมาเพื่อเป็นสื่อกลางให้กับ PSH และแฟนๆของเขาทุกคน

    ReplyDelete