Scent

Scent

Wednesday, February 29, 2012

บทสัมภาษณ์ Park Si Hoo ในนิตยสาร L'officiel Hommes

เดือน มกราคม 2012 :

PSH นักวิ่งระยะไกล

ถ้าเปรียบเทียบกับการวิ่งระยะสั้น 100m แล้ว PSH จะถนัดในการวิ่งระยะไกลมากกว่า เมื่อเขาตัดสินใจทำอะไรเขาจะมุ่งมั่นฝ่าฟันไปจนกระทั่งถึงเส้นชัยในที่สุด จนเมื่ออายุได้ 30 ปีกว่าแล้วนั่นหละ เขาถึงได้วิ่งทะยานตัวเองผ่านพ้นกลุ่มเพื่อนพ้องรุ่นเดียวกันไปยืนอยู่ที่เส้นชัยของความสำเร็จในขณะนี้

( R : ผู้สัมภาษณ์ , P : Park Si Hoo )


R : ความฝันของคุณมาถึงหรือยังในขณะนี้กับสถานภาพในปัจจุบัน

P :  กำลังค่อยๆมาถึง ดีกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบกับในอดีต ผมเริ่มงานแสดงเมื่ออายุ 20 ปี ไม่เคยคิดว่าจะต้องใช้เวลานานเช่นนี้กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้

R : จากประวัติของคุณ " Delightful girl : Choon  Hyang " ถือเป็นละครเรื่องแรกของคุณ  คุณเล่นในละครเรื่องนี้จริงๆหรือ ขอโทษด้วย แต่ผมจำไม่ได้จริงๆ

P : ครับ แต่มีบทเล็กๆ เล็กมากๆ จริงๆ จะเรียกว่าแสดงในละครนี้คงไม่ได้เสียทีเดียว ในช่วงนั้นผมมีบทเล็กๆในหลายงานแสดงด้วยกัน

R : เหมือนนักแสดงที่เริ่มต้นบนเวทีโรงละครก่อน

P : ถูกต้องครับ เมื่อผมตัดสินใจมาเป็นนักแสดงนั้นคือหนทางเดียวที่ผมมี



R : อะไรคือสิ่งที่ยากลำบากที่สุดในช่วงนั้น

P : ความไม่แน่นอน เคยคิดว่าผมจะไปได้ดี ไปได้สวยกับคำว่า "go" แต่ทำไมมันกลับกลายเป็นอย่างนี้ไปได้ ตอนนี้เมื่อคิดถึงช่วงเวลานั้นแล้ว ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงมีสติสตังที่เชื่อว่าตัวเองจะทำได้ (หัวเราะ) เมื่อผมหกล้มหกลุกอยู่กับความไม่แน่นอนของชีวิตในช่วงนั้น มันเป็นช่วงที่ยากลำบากมากๆ เพียงเพราะความเป็นคนมีนิสัยที่มองโลกในแง่ดีที่ทำให้ผมยังคงมุมานะ พยายามต่อไป

R : ความมุมานะพยายามเป็นคุณภาพที่สำคัญของนักแสดงหรือ

P :  ใช่ครับ การมีจิตใจที่มองโลกในแง่ดีก็มีความสำคัญมากด้วย นักแสดงส่วนใหญ่ที่ผมเริ่มงานแสดงด้วยกันมาต่างถอนตัว เลิกลางานแสดงเพื่อเบนเข็มไปในสายงานอีื่นๆกันหมดแล้ว เหลือแต่ผมที่ยังคงยืนหยัดอยู่ในขณะนี้ ผมเป็นคนที่เชื่อมั่นในตนเอง

R : อะไรที่ทำให้คุณมีความเชื่อมั่นในตัวเอง

P : ความดื้อดึง ดื้อรั้น (หัวเราะ)  ผมชอบการวิ่งระยะไกลมากกว่าการวิ่งระยะใกล้ เมื่อผมเริ่มอะไรแล้วผมจะยืนหยัดสู้กับมันจนถึงที่สุด ผมเป็นคนที่ไม่เคยยอมแพ้หรือถอนตัว



R : คุณมีความสุขหรือยังตอนนี้

P : แน่นอนครับ และผมจะมีความสุขมากขึ้นไปอีกในอนาคต

R : คุณกำลังจะเข้าช่วงกลางของอายุ 30 คุณพิจารณาตัวเองว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวหรือยัง

P : ผมเป็นผู้ใหญ่มานานแล้ว

R : อะไรคือความแตกต่างระหว่างผู้ชายที่ถือว่าบรรลุนิติภาวะแล้วกับที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ

P : คนที่บรรลุนิติภาวะแล้วจะมีจุดมุ่งหมายที่แน่นอนของชีวิต ในทางตรงกันข้ามคนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จะไม่มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนของชีวิต หรือยังคงไร้จุดหมายปลายทาง



R : อะไรคือเป้าหมายสูงสุดของคุณในฐานะนักแสดงคนหนึ่ง

P : ผมมีเป้าหมายอยู่ในใจ แต่ยังเป็นความลับอยู่

R : เป็นไปได้ไหมที่คุณจะต้องการเป็นดาราที่มีชื่อเสียงระดับอินเตอร์เหมือน Bae Yong Jun ? คุณรู้ไหมอะไรที่จะนำคุณสู่การเป็นดาราชั้นแนวหน้า คุณไม่อยากทำงานที่จะสร้างคลื่นลูกใหม่ หรือกระแสใหม่ๆให้กับวงการของเกาหลีหรือ

P : ผมมีแฟนๆในต่างประเทศมากมาย ในเดือนกุมภานี้ผมไปญี่ปุ่น, ไต้หวัน, และ ประเทศจีน สำหรับ Fan meetings แทนการเป็นคลื่นลูกใหม่ ผมหวังที่่จะมีงานแสดงที่ผมไม่เคยลองมาก่อนดีกว่า

R : หนังใหม่ที่จะฉายในช่วงกลางปีนี้ "I 'm a killer" คือเหตุผลที่คุณเลือกงานชิ้นนี้หรือ

P : ผมเลือกงานนี้เพราะมันจะโชว์แนวทางที่แตกต่างจากงานเก่าๆที่เคยรับมาก่อน ผมเคยพูดก่อนหน้านี้แล้วว่า ผมอยากรับงานที่เป็นตัวร้าย,  นักฆ่า และโชคดีที่งานนี้เป็นไปแนวทางนั้น

R : ก็ไม่รู้จะถือเป็นคำชมหรือเปล่า แต่คุณเล่นบทคนสองบุคลิกได้ดีมาก

P : นี้ถือเป็นคำชมครับ ความใฝ่ฝันของผมคือวันหนึ่งจะได้มีโอกาสเล่นบทคล้ายๆกับ Edward Norton ในหนัง "Primal Fear"



R : นี้คืองานหนังเรื่องแรกของคุณ รู้สึกกดดันบ้างไหม

P : เปรียบกับงานละคร TV การถ่ายหนังใหญ่ไม่เร่งรีบมากนัก ทำให้ผมมีเวลาในการศึกษา ไตร่ตรองกับบทบาทได้มากกว่า แต่เพราะผมเรื่มถ่ายหนัง 2 วันหลังจากที่เสร็จจากละคร TPM บางครั้งบางคราวผมยังเผลอติดพูดจาแบบสมัยโบราณโดยไม่ตั้งใจออกมา

R : TPM ของคุณกลายเป็นละครที่ฮิตเอามากๆ และรางวัลประกาศผลในช่วงปลายปีกำลังมาถึง มีความคาดหวังอะไรไว้บ้างไหม

P : ผมยินดีกับทุกรางวัลที่จะได้รับ แต่ด้วยความสัตย์จริง ถ้าผมจะชนะรางวัลคงเป็นสิ่งที่น่าปลาบปลื้มมากทีเดียว

R : หลังจากเสร็จสิ้นงานละคร คุณต้องการทำอะไรถ้าคุณจะมีช่วงหยุดพักจากงานแสดง

P : ​ผมอยากไปยุโรป ผมยังไม่เคยไปประเทศอื่นๆในยุโรปเลย นอกจากตุรกี

R : คุณอยากเดินทางในแบบไหน

P : แทนที่จะกะวางแผนอะไร ผมชอบที่จะไปที่ไหนๆก็ตามที่ผมมีความรู้สึกว่าอยากไป  ถ้าผมรู้สึกในวินาทีนั้นว่าต้องไปให้ได้ ในช่วงเช้ามากแค่ไหนก็ตาม ผมก็จะออกไปในทันที ปีก่อนผมใช้เวลา 1 เดือนครึ่งในอมริกา ผมไป New York, Las Vegas, and Los Angeles ตามลำพังคนเดียว

R : คุณนรู้สึกว้าเหว่บ้างไหมเดินทางไปคนเดียวอย่างนี้น

P : มีคนที่ผมรู้จักในบางที่ที่ผมไป ก็น่าจะไปกับแฟนสาวนะ

R : ผมเข้าใจว่าคุณบอกว่าคุณไม่มีแฟน

P : มันเกือบจะ 4 ปีแล้วที่ผมไม่มีใครเป็นพิเศษ ผมยุ่งกับงานมาก ไม่ง่ายเลยที่จะพบใครสักคน

R : แทนการแนะนำให้จากใครๆ คุณเชื่อในเรื่องพรหมลิขิตมากกว่า

P : ครับ ประเภทรักเมื่อแรกพบ แต่อย่างที่คุณรู้มันแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นเลย

R : ตรงจุดข้ามถนน คุณถูกชะตาผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน คุณจะทำอย่างไร คุณบอกว่าคุณเป็นคนขี้อาย

P : ใช่ ผมขี้อาย นั้นคือเหตุผลที่เวลาผมตัดสินใจเลิกกับแฟนเก่าเมื่อ 4 ปีก่อน ทุกๆคนประหลาดใจไปตามๆกันกับความเด็ดขาดของผม เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา จะให้พูดอย่างไรดี ...? บางครั้งผมก็รู้สึกเสียใจที่ปล่อยให้มันหลุดลอยไป

R : ตรงจุดข้ามถนน ผู้หญิงแบบไหนที่จะสะดุดตาคุณ

P : ผู้หญิงที่ดูเก๋ๆ น่ารัก แต่ที่สำคัญที่สุดคือผมจะต้องรู้สึกประทับใจอะไรเป็นพิเศษ

R : คุณเป็นคนรักแบบไหน

P : อาจจะกึกๆกักๆในช่วงแรกๆ แต่เมื่อผมยอมรับแล้วผมจะทุ่มทั้งตัวให้เธอเลย

R : คุณอยู่ในช่วงสำคัญในงานอาชีพอย่างนี้ แน่นอนการตกหลุมรักใครดูจะเป็นเรื่องต้องห้ามอยู่

P : งานคืองาน ความรักคือคววามรัก ผมรู้เสมอว่าจะแยกแยะทั้ง 2 สิ่งนี้ได้อย่างไร

R : คุณคิดว่าความรักคืออะไร

P : เอาอย่างนี้ ... แล้วคุณคิดว่าความรักคืออะไรหละ

R : ผมไม่รู้...

P : เห็นไหม ก็ไม่รู้ว่าความรักคืออะไรเหมือนกัน

R : คุณมาถึงอายุที่พร้อมจะเริ่มชีวิตครอบครัว และเป็นพ่อคนได้แล้ว พ่อแบบไหนที่คุณต้องการจะเป็น

P : ผมยังไม่มีคนรักเลย มาพูดอะไรเกี่ยวกับเป็นพ่อคน (หัวเราะ) ยังไม่เคยคิดเลย เพื่อนๆที่อายุมากกว่าผมกำลังเร่งรัดที่จะแต่งงานกัน พวกเขาบอกว่า เมื่อคุณมีลูกสักคน โลกของคุณจะเปลี่ยนไปเลย แต่สำหรับผมเรื่องนี้ยังอยู่ห่างไกลออกไปจากความคิดของผม



R : คุณเป็นลูกชายแแบบไหน

P : ไม่ดี ไม่เลว เป็นลูกชายที่ไม่เคยสร้างปัญหา ชีวิตชองผมเติบโตมาแบบไม่มีอะไรที่พิเศษนัก ครอบครัว
ของเรามีความคาดหวังอย่างสูงในตัวน้องชายของผมที่เป็นเลิศในการเล่น Baseball ตั้งแต่ยังเล็กๆพวกเขาคิดว่าน้องชายของผมจะต้องประสพความสำเร็จอย่างสูง

R : ลูกชายที่เปรียบเหมือนร่างเงาธรมดาๆคนหนึ่ง บอกว่าอยากเป็นนักแสดง พ่อแม่ของคุณ ตกใจ หรือประหลาดใจไหม

P : พวกเขาคิดว่าผมคงจะอยากลองดู แล้วก็คงจะเลิกล่มความตั้งใจไปเอง ตอนนี้พ่อแม่ผมมีความสุขมากๆ

R : พ่อของคุณเคยเป็นนายแบบมาก่อน เพราะพ่อของคุณหรือเปล่าที่ทำให้คุณใฝ่ฝันอยากเดินทางสายนี้

P : แทนที่จะพูดว่าผมมีความฝันอันนี้เพราะการเฝ้าดูพ่อ คงจะไม่ถูกนัก ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือผมโตมากับหนังจะถูกต้องมากกว่า ในสมัยเด็กๆ ผมจะถูกพ่อจูงมือไปดูหนัง สมัยนั้นพ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่พาลูกไปดูหนังตามโรงหรอก ดังนั้นผมรู้สึกขอบคุณพ่อมาก เพราะจากจุดนั้นที่ทำให้ผมอยากเป็นนักแสดง

R : รายได้ของคุณช่วงนี้คงจะน่าพอใจทีเดียว คุณซื้ออะไรให้พ่อแม่ของคุณบ้าง

P : พ่อผมชอบพูดติดตลกว่ารถสตาร์ตไม่ค่อยจะติด ผมก็เลยซื้อรถให้เขาใหม่ 1 คัน ดูเหมือนเขาจะเที่ยวอวดเพื่อนๆของเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้

R : แล้วแม่หละ

P : ผมเอาเงินทั้งหมดที่หาได้ให้แม่ดูแล

R : คุณรู้หรือเปล่า คุณหาเงินได้เท่าไหร่

P : ผมไม่เสียเวลานั่งคำนวณเงินรายได้ของผมหรอก ผมไม่ค่อยได้ใช้จ่ายอะไรมากนัก ผมถ่ายหนังทั้งวัน
ไม่มีเวลาเป็นอิสระ ผมชอบกล้องและพวกของใช้ ประเภทเทคโนโลยี่ทั้งหลายแต่พวกนี้เป็นของขวัญจากแฟนๆทั้งสิ้น ผมไม่เคยซื้ออะไรมานานแล้ว



R : ผมเห็นภาพคุณใน Twitter คุณใส่รูปภาพมากมายในนั้น

P : ผมชอบการถ่ายรูป และนี้คือวิธีที่ผมใช้สื่อสารกับแฟนๆของผม

R : คุณถึงกับถ่ายรูปตอนกำลังนั่งดื่ม Soju ( เหล้าเกาหลี) ตามร้านข้างทางคุณอยากจะโชว์แฟนๆกับชีวิตที่เรียบง่ายของคุณหรือ

P : ผมไม่ค่อยจะดื่มเหล้า ผมใส่รูปนั้นเพราะถือเป็นเวลาที่ไม่ปรกติที่จะเห็นผมดื่ม



R : อะไรที่คุณกำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ที่ไม่เกี่ยวกับ Movie

 P : ทุกวันผมจะมองหารถ Campers (RV = recreation vehicle) มันค่อนข้างจะดูหรูหราและแพงเกินไป ผมไม่สามารถจะใช้เงินกว่า 100 ล้านวอน ซื้อรถพวกนั้นได้ ผมต้องการมองหาอะไรที่เล็กๆหน่อย อีกอย่างผมกำลังมองดูรูปภาพเกี่ยวกับการตกแต่งภายใน ผมอยากจะออกแบบบ้านของตัวเองในอนาคต

R : บ้านแบบไหนที่คุณคิดเอาไว้

P : ประเภทที่คล้ายบ้านพักตากอากาศในตัวเมือง ถ้าเป็นไปไม่ได้ก็ขอให้มีสระว่ายนำ้ ห้องนอนที่มีห้องนำ้ในตัว และถ้ามี Jacuzzi นอกบ้านได้จะยิ่งดีใหญ่

R : มันจะไม่เป็นอะไรที่แพงเอาการอยู่หรือ

P : วันหนึ่งผมคงพอมีกำลังที่จะหาซื้อได้

เพราะเขาเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นอย่างสูง ทำให้เราเชื่อว่าเขาจะสามารถบรรลุความต้องการของเขาได้ในวันใดวันหนึ่ง






8 comments:

  1. ขอวิ่งเคียงข้างอุปป้าไปตลอดทางเลยนะจ๊ะไม่ว่าหนทางจะไกลอีกแค่ไหนก็ตาม ^_^

    ReplyDelete
  2. ว้าว! Dorame, กลับมาอ่าน Post เก่าๆอย่างนี้ดีจังคะ ทำให้รู้สึกว่าของเก่าๆก็ยังมีคนเหลียวแลอยู่

    ดีคะวิ่งเคึยงข้างไปเรื่อยๆเหมือน "เสันชนาน" ไว้นะคะ PSH จะได้ปลอดภัย ฮิ ฮิ ^^

    ReplyDelete
  3. ว่างๆจะค่อยๆตามอ่านบทความเก่าๆนะคะ
    จริงๆก็เคยอ่านจาก parksihoo4u แล้วเหมือนกันแต่อยากเก็บตกภาคภาษาไทยเผื่อเราพลาดอะไรไป แบบว่าคิดถึง PSH ด้วยอ่ะค่ะ

    นิกกี้เค้าใจป้ำให้นิกกี้วิ่งอีกข้างของซีฮูแล้วกัน เป็นเส้นขนานสามเส้นไปเลยแล้วกัน ไม่มีใครน้อยหน้าใคร
    แต่ วิ่งตามให้ทันก็แล้วกันนะ ^^

    ReplyDelete
  4. อยากเจอกับ K.Park shi hoo สักครั้ง จังเลย

    ReplyDelete

  5. ขอเป็นกำลังใจให้ Park si hoo










    ReplyDelete
  6. @ ลายทอง, ยินดีต้อนรับที่บ้าน Sihoo นะคะ แล้วอ่านบทความอื่นครบหรือยังคะ นิิกกี้กำลังจะลงอันใหม่อีกอัน ต้องหายใจเข้าแรงๆก่อนจะเริ่ม เพราะมันต้องแปลยาวๆทั้งนั้น แต่ก็น่าสนใจมากๆ ใข่ไหมคะแล้วเจอกันคะ

    ReplyDelete
  7. เมื่อไรคดีของ Park Si Hoo จะจบ อยากดูผลงานใหม่เร็ว ๆ

    ReplyDelete