Scent

Scent

Saturday, May 4, 2013

PSH's Family : มาทำความรู้จักกับพระพุทธรูปสมัย " Baekje " กัน

ก่อนที่เราจะมาทำความรู้จักกับพระพุทธรูป หลายคนคงกำลังตั้งคำถามกันอยู่ในใจสินะว่าพระพุทธรูปจะมาเกี่ยวข้องกับ Park Si Hoo ได้อย่างไร ใช่ไหม ? ดังที่บอกไปแล้วว่าขณะนี้กำลังทำการค้นคว้าเกี่ยวกับประวัติของเขาอยู่ ซึ่งจำเป็นต้องค้นหาข้อมูลจากหลายแห่งด้วยกัน และความจำกัดที่ภาษาทำให้ไม่สามารถที่จะล่วงลึกมากไปกว่าที่เราจะหาเป็นภาษาอังกฤษได้จากทาง Internet เท่านั้น และนี้คือสิ่งที่ได้ไปอ่านเจอมา ...

ครอบครัว Park ที่น่ารักของเรา
Our lovely ... Park Family



นี้จะเป็นการแปลออกมาแต่เพียงสังเขปเท่านั้น โดยขอเริ่มกับคำว่า " Baekje " ก่อน เมือง Buyeo ที่เป็นเมืองที่ Park Si Hoo เติบโตมานั้นเดิมทีเมื่อหลายร้อยปีก่อนที่เกาหลี (ทั้งเหนือ และใต้ ) ถูกปกครองโดย 3 ราชวงศ์ด้วยกันซ่ึงเรียกว่ายุคของ " 3 ราชวงศ์ " ( The Three Dynasty ) และ " ราชวงศ์ Baekje  " ที่ปกครองในแถบนี้ ( ทางใต้ของ เกาหลี ) ก็ได้มาก่อตั้งเมืองเอกขึ้นที่เมือง Sabi ( หรือเมือง Buyeo ในปัจจุบัน ) และนั่นคือที่มาของคำว่า " Baekje " ก็คงเหมือนอาณาจักรสุโขทัยของเราอะไรทำนองนั้นนะ

พระพุทธรูปสมัย " Baekje " หรือ " Baekje smile "




และ ในช่วงที่ราชวงศ์ Baekje กำลังอยู่ในยุคที่รุ่งเรืองสูงสุด จึงได้มีศิลปออกมามากมายในช่วงนั้น และหนึ่งในศิลปโบราณในสมัยของราชวงศ์ Baekje ก็คือพระพุทธรูป " Baekje " และสิ่งที่ได้อ่านเจอมานั้นก็ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆถ้าจะบอกว่าความพิเศษของพระพุทธรูปในสมัย Baekje นั้นคือ " เป็นพระพุทธรูปที่มีรอยยิ้ม " หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า " Baekje smile " ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากที่ใบหน้าขององค์พระ ที่เขากล่าวกันว่าเป็นรอยยิ้มที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นแก่ผู้ที่พบเห็น ซึ่งพระพุทธรูปดังกล่าว ได้นำมาเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานของเมือง Buyeo ในปัจจุบัน

นอกจากนั้นแล้ว ศิลปการก่อสร้างอาคารสถานรวมทั้งเทคนิคการก่อสร้างของชาว Baekje ก็เป็นที่เลื่องลืออย่างมากด้วยเช่นกัน จนถึงขนาดที่มีเมืองเพื่อนบ้านในอาณาเขตใกล้เคียง ได้มาขอให้ชาว Baekje ไปสร้างวัด และ เจดีย์ในแบบของ Baekje ให้ที่เมืองของพวกเขาอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมีศิลปที่ล้ำลึกเป็นพิเศษของชาว Baekje  แม้แต่แผ่นกระเบื้องสักแผ่นเดียวก็จะต้องใส่ทั้งหัวใจและจิตวิญญาณของชาว Baekje ในการทำมันออกมา

-------------------------------------------------------------

Buyeo is located at the southern area of Chungcheongnam-do, the heart of the Korean peninsula, and has the same longitude as Wyndham, Australia and the same latitude as Tokyo.[1]
During the Three Kingdoms Era, the capital of Baekje was moved to present-day Buyeo-eup (then called Sabi) on account of crowding in the former capital, which was near present-day Seoul. A fortress called Garimseong was constructed for defending the new capital.[2] Buyeo County has numerous historical sites from this era, such as the mountain fortresses (sanseong) at Seongheung, Buso, and Cheong, the tumuli at Neungsan-ri, and the temple site at Gunsu-ri, all designated Historic Sites of South Korea.

Exhibition Room III is filled with the warmth of the famous "Baekje smile," which can be found on the faces of Buddhist statues from the era. Exhibits in this room examine the international exchange that flourished during the Baekje Kingdom, and Baekje's architecture and construction technology, which was so superior that they were called on to build temples and pagodas for neighboring countries. All of the displays here radiate the genuine spirit of Baekje craft, where even one single tile contains the whole heart and soul of the artisan.


ข้อมูลจาก : http://buyeo.museum.go.kr/lang/eng.do?method=main


อ่านแล้วรู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่ได้รับรู้พวกเรา " พระพุทธรูปที่มีรอยยิ้ม " คือสัญญลักษณ์ที่ภาคภูมิใจของชาว Baekje และ Park Si Hoo ผู้ซึ่งมีรอยยิ้มเป็นที่ประทับใจแฟนๆทั่วโลก ก็คือสัญญลักษณ์ที่ภาคภูมิใจของชาว Buyeo ด้วยเช่นกัน ก็ไม่คิดจะเอา Park Si Hoo ไปเปรียบเทียบกับพระพุทธรูปหรอก แต่อยากจะมองเช่นนี้ว่าคนเราจะวาดรูป จะปั้นอะไร ก็ต้องทำตามความรู้สึกของคนหรือกลุ่มคนผู้นั้นใช่ไหม และนี้คงจะเป็นภาพสะท้อนถึงนิสัยใจคอของชาว Baekje หรือชาว Buyeo ในปัจจุบันละมังที่เป็นคนอารมณ์ดี มองโลกในแง่ดี อย่างที่เราได้อ่านบทความก่อนหน้านั้นมาแล้วว่า คนทั้งเมืองนั้นแสดงความคิดเห็นเป็นเช่นไรกับข่าวที่กำลังเกิดขึ้น

บ้านของ Park Si Hoo ที่เขาได้ทำการออกแบบตกแต่งเองทั้งหมด



และ พวกเราก็คงทราบดีว่า Park Si Hooนั้นมีความสนใจในเรื่องศิลปการตกแต่งบ้าน และ เทคโนโลยี่ต่างๆมากเพียงไร อีกทั้งครอบครัวของพวกเขาก็เป็นครอบครัวที่เป็นเจ้าของที่ดินมหึมาในเขตเมือง  Buyeo อีกด้วย เราไม่ทราบว่าปู่ของ Park Si Hoo มีที่ทางมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร ถ้าเป็นเมืองไทยเราก็คงว่าเป็นเรื่องของศักดินา หรืออย่างน้อยก็เป็นผู้ที่สืบเขื้อสายมาจากตระกูลที่สำคัญของเมืองนั้นๆ แต่เราจะไม่เอาตัวเองไปก้าวก่ายกับประวัติศาสตร์ในส่วนนี้ ที่เราสนใจก็คือ ความน่าสนใจของพระพุทธรูป Baekje และ ความปราดเปรื่องรอบรู้ของชาวเมือง Baekje ในอดีต ซึ่งช่างไม่น่าเชื่อว่าทุกสิ่งที่กล่าวมาล้วนเป็นคุณสมบัติพิเศษที่ Park Si Hoo มีอยู่ในตัวของเขาทั้งสิ้น

บ้านและที่ดินสุดลูกหูลูกตาซึ่งเป็นของครอบครัวของ PSH ในเขตเมือง Buyeo



ก็ขอให้ถือเสียว่านำเรื่องมาเล่าให้ฟังกันนะ เพราะบอกตรงๆทุกครั้งที่ดูหนังแนวโบราณเคยคิดเสมอว่าชุดแต่งกายของผู้ชายเกาหลีนั้น ช่างไม่มีอะไรที่น่าสนใจเลย แต่เมื่อ Park Si Hoo ใส่เสื้อผ้าในแบบโบราณเหล่านี้แล้ว เขาทำให้ชุดนั้นๆเปล่งรัศมีอะไรบางอย่างออกมาได้อย่างประหลาด แม้แต่นักแสดงชายที่ร่วมแสดงกับเขาก็ไม่ได้ดูดีเท่าเขา ช่างไม่เหมือนคนอื่นๆจริงๆ อ้า...หนุ่ม Baekje ของเรา

นำภาพ Park Si Hoo ในชุดแบบโบราณจากเรื่อง TPM & Iljimae มาให้ดูนะ




credit : buyeo.museum.go.kr, thanks!

9 comments:

  1. อ่านแล้วภูมิใจแทนเลยค่ะ ไม่แน่นะต้นตระกูลของชีฮูอาจจะเคยเป็นขุนนางเลยด้วยซ้ำ

    ReplyDelete
  2. เขาดูสง่ามากเวลาใส่ชุดโบราณ เราว่าแน่นอนเขาต้องมีบ้างแหละ ถ้าไม่งั้นจะมีที่ทางเยอะได้อย่างไร หากเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา

    ReplyDelete
    Replies
    1. ที่สำคัญขอบคุณมากค่ะ นิกกี้ประทับใจมากค่ะ อาจดูเหมือนไม่เกี่ยวกัน แต่จริงๆแล้วสะท้อนอะไรออกมาได้มากมายค่่ะ

      Delete
  3. สวัสดีคะทุกคน : สำหรับนิกกี้นะคะ เชื่อในเรื่องประวัติศาสคร์มักเป็นจุดเกิดของอนาคตคะ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่จะมองในลักษณะแนวตรงได้ แต่ทุกอย่างมันมีเหตุผลของมัน นิกกี้เชื่อว่าการที่ Park Si Hoo เป็นคนที่มีจิตใจงามนั่นมาจากการเลี้ยงดูของครอบครัวเขา และกาารอบรมสั่งสอนที่ดีเยี่ยมจากพ่อ-แม่ ปู่-ย่า ของเขา และคนในหมู่บ้านนั้นก็ดูจะมีจิตใจที่ดีงามเหมือนๆกัน

    และที่วันนี้อยู่ดึกเพราะกำลังดู COM กับ Eng Sub อยู่ไปเจอเข้าใน Youtube ประเภทม้วนเดียวจบ ภาพคมชัดมาก กะว่าจะเอาลงทิ้งไว้ให้ใครๆที่อยากเข้ามาดูค่าเวลานะ เพราะอย่างน้อยก็ยาวตอนเดียวได้อารมณ์ต่อเนื่องดี ถ้าใครสนใจก็เข้ามาดูนะคะ จะเอาลงทิ้งไว้ให้พวกเราดูกัน ภาษาอังกฤษเขาไม่ยากคะ และจะเข้านอนเลยนะคะ เจอกันช่วงเย็นๆนะทุกคน

    ReplyDelete
  4. อ่านบทความนี้แล้วนึกถึงเรื่องจูมงเลย จูมงเดิมทีก็เกิดและเติบโตที่พูยอ แพกเจนี่แหละ ตอนหลังจูมงไปตั้งอาณาจักรใหม่คือโกคูรยอ ทุกวันนี้โกคูรยออยู่ในเขตประเทศเกาหลีเหนือ

    ReplyDelete
    Replies
    1. Nantaporn : นิกกี้ไม่เคยดู Jumong แต่ทราบว่าเป้นละครที่ดังมากเรื่องหนึ่งเห็นตอนแล้วมันท้อคะ รู้สึกจะยาวมากอยู่ ขอบคุณสำหรับข้อมูลคะ เท่าที่อ่านประวัติของเมือง Buyeo นั้นถือเป็นเมืองที่มั่งคั่งมากทีเดียว และตอนนี้ก็เป็นเขตที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่สูงติดอันดับของประเทศเสียด้วย

      Delete
  5. ขอให้พระคุ้มครองให้กลับมามีรอยยิ้มที่อบอุ่น

    ReplyDelete