Scent

Scent

Friday, January 4, 2013

คำแปลบทสัมภาษณ์บางส่วนของ PSH ในนิตยสาร Asta Mag (1)


เนื่องจากมีความยาวมากทีเดียวจึงขอแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน โดยตอนแรกนี้จะเน้นไปที่การให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของเขาก่อน และ ถ้าใครสนใจที่จะอ่านการให้สัมภาษณ์เขาอย่างเต็มๆแล้วหละก็ เราก็ขอแนะนำให้ไปหาซื้อนิตยสารฉบับนี้ตามแผงหนังสือทั่วไปได้ในขณะนี้ และอย่าได้รอช้าเพื่อกันความผิดหวังของตัวคุณเอง


Special Interview & Special thanks to " For you PSH " จ๊ะ



ปักชีฮู "นอกจากงานแสดง ผมไม่คิดทำงานอื่นเลย"

     จากเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง หอบความฝันอยากจะเป็นนักแสดงเข้าเมืองกรุง
เพียงเพราะเชื่อคำพูดใครคนหนึ่ง
ด้วยความมุ่งมั่นไม่ลดละแม้ต้องประสบกับความลำบากมากแค่ไหน
ก็ได้หล่อหลอมเด็กหนุ่มคนนั้นเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นพระเอกคนดังขวัญใจสาวๆ
ทั่วเอเชีย
ในภาพลักษณ์นักแสดงหนุ่มสุดเท่ห์ที่ชื่อ ปักชีฮู
แต่แทนที่เขาจะยึดติดกับภาพลักษณ์ที่ดีเหล่านั้นต่อไป
เขากลับเลือกที่จะท้ทายความสามารถของตัวเอง
พลิกบทบาทมารับบท ฆาตกรโรคจิตที่ฆ่าเหยื่อมานับไม่ถ้วน
ซึ่งภายหลังเผยตัวต่อสังคม หลังคดีความหมดอายุลง
ในผลงานหนังเรื่องแรกของเขา
Confession of Murder แม้จะเป็นก้าวแรกที่สาหัสพอสมควร
เพราะนอกจากจะฉีกไปจากบทเดิมๆ ที่เขาเคยแสดงมา ทั้งยังต้องเจอแต่ซีนโหดๆ
แต่พระเอกหนุ่มก็เผยให้เห็นถึงความตั้งใจ
และความรักในการแสดงที่มีอยู่ในแววตาของเขาอย่างเปี่ยมล้น
ตั้งแต่วันแรกที่เข้าสู่เส้นทางบันเทิง
จวบจนถึงปัจจุบัน...7 ปีที่ผ่านมา
เข้าต้องผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะมีวันนี้ได้
คงต้องให้เจ้าตัวเป็นคนเล่าเองค่ะ



กระแสการตอบรับผลงานหนังเรื่องแรกของคุณ Confession of Murder
สะท้อนด้านมือสังคม ที่มีความหลากหลายทั้งคอเมดี้, แอ็กชั่น
รวมทั้งความรัก เป็นยังไงบ้างคะ?
ปักชีฮู : "ความที่หนังเรื่องนี้เป็นซีนแอ็กชั่นเป็นหลัก
จึงต้องพยายามทำให้การแสดงดูมีพลัง ผู้ชมแต่ละคนที่ดู
อาจมีการตอบรับที่แตกต่างกันไป อย่างพวกผู้ชายที่ชอบแอ็กชั่น
แบบสมจริงก็อาจจะถูกใจหนังเรื่องนี้
ขณะที่พวกผู้หญิงอาจไม่ชอบหนังแนวนี้เลยก็ได้ครับ"





ได้ยินว่า ในหนังเรื่องนี้ก็มีฉากแอ็กชั่นน่าหวาดเสียว
ที่เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ได้เพียบอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอคะ?
ปักชีฮู : "จริงเหรอครับ? หรือเป็นเพราะผมใส่ชุดกาวน์ออกมา? ฮ่าๆ
คิดแบบนั้นคงจะไม่ได้มั้งครับ? แต่ผมไม่รู้หรอกนะครับว่า พวกสาวๆ
จะกรี๊ดผมหรือเปล่า
ตรงกันข้ามกลับคิดว่า ซีนรถชนหลังจากการลักพาตัวที่สระว่ายน้ำนั้น
เป็นฉากที่น่าเศร้าสำหรับผมมากกว่าครับ ตอนที่อ่านบทครั้งแรก
ผมรู้แต่เพียงว่าเป็นฉากแอ็กชั่น
แต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจนักว่า ผมจะกระโดดจากรถคันหนึ่งไปยังรถอีกคัน
ขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่ได้ยังไง จินตนาการไม่ออกจริงๆ ครับ
แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เพราะยังไงก็น่าจะมีนักแสดงแทนอยู่แล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ ความที่ผู้กำกับฯ
มีพื้นเพมาจากโรงเรียนสอนแอ็กชั่น เขาจึงให้สตันท์แมนถ่ายสั้นๆ 1 ครั้ง
ในขณะที่ฉากที่เหลือทั้งหมด เขาขอร้องให้ผมแสดงเองครับ
ตอนนั้นผมยังสับสนอยู่ตามเขาไม่ค่อยทัน แต่เขาเนียนๆ
แกล้งหันมาถามผมครั้งหนึ่งว่า
 'ส่วนนี้อันตรายจะใช้สตันท์แมนมั้ย?
แต่ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเปลี่ยนมุมกล้องใหม่น่ะสิ'  ฉากแอ็กชั่นเท่ห์ๆ ใครๆ
ก็อยากแสดงอยู่แล้ว แถมนี่ยังเป็นหนังเรื่องแรกของผมอีก
ผมจึงไม่ได้พูดอะไร และยอมแสดงเองในที่สุด
แต่ถ้าเป็นนักแสดงคนอื่นคงจะปฏิเสธไปแล้ว ทำไงได้ก็ผมโลภเอง ผู้กำกับฯ
ก็เลยจัดหนักให้เลยครับ



     จริงๆ ฉากรถชน แค่แกล้งชนแล้วใช้มุมกล้องช่วยก็ได้
แต่เขากลับสั่งให้รถเข้ามาชนจริงๆ
แถมหัวของผมยังกระแทกกับกระจกหน้าต่างรถอีก
แม้แต่การอยู่บนกระโปรงรถที่จอดอยู่เฉยๆ ก็ยังลำบากเลย
แต่นี่ถ่ายทำกันในขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่จริงๆ เล่นเอาผมแทบตายแน่ะ
แต่เพราะไม่อยากให้ต้อง NG ซ้ำ
และต้องมาเจ็บตัวอีก ผมจึงพยายามทำทั้งหมดให้ผ่านในรอบเดียว
ตอนถ่ายฉากนี้เสร็จ ผมยังคิดว่าผู้กำกับฯ จะถามผมว่า 'เป็นอะไรมั้ย?'
แต่เขากลับบอกว่า
ลองอีรอบหนึ่งแล้วกัน' พอได้ยินแบบนั้น ผมก็รู้สึกโกรธขึ้นมาเลยรับ ทั้งๆ
ที่พระอาทิตย์ตกแล้ว ถึงจะถ่ายทำไปก็ไม่สมารถใช้ได้อยู่ดีเพราะแสงหมด
แต่เขาก็ยังบอกว่าให้ลองอีกรอบหนึ่ง!!! ผมเลยได้แต่อึ้ง!? ถึงอย่างนั้น
ผมก็โกรธเขาได้แค่แป็บเดียว แล้วก็ลืมมันไปครับ
นี่ยังดีที่เราถ่ายทำด้วยการใช้วิธีโครมาคีย์
(Chroma Key-การซ้อนภาพโดยใช้ฉากหลังเป็นสีใดสีหนึ่งเพื่อเปลี่ยนฉาหหลังใหม่ที่ไม่สามารถนำมาใช้เป็นฉากจริงได้)
ไม่ใช่ถนนจริง
แต่กว่าจะได้ภาพที่สมบูรณ์ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย กินเวลาถ่ายทำนานถึง 10 วันเลยครับ"



ที่ผ่านมา มีข้อเสนอให้คุณแสดงหนังค่อนข้างมาก แต่ทำไมถึงได้เดบิวต์ช้าแบบนี้ล่ะคะ?
ปักชีฮู :  "หลังจากซีรี่ส์เรื่อง Let's Get Married และ Which Star Are
You From? จบลงก็มีงานแสดงหนังติดต่อเข้ามาให้ผมเป็นนักแสดงนำเรื่อง
มิสเตอร์ชงอัล
แม้ในเวลานั้นกระแสตอบรับซีรี่ส์ของผมจะดีมาก
จนมีข้อเสนอให้ผมแสดงซีรีส์เรื่องใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ผมคิดว่า
ถ้าแสดงหนังน่าจะใช้เวลาในการเตรียมตัวน้อยกว่า
อีกทั้งพอลองอ่านบทหนังเรื่องนี้ดูแล้ว ก็รู้สึกสนุกมาก
จึงตัดสินใจยอมทิ้งโอกาสดีๆ เหล่านั้นไปเพื่อรับงานนี้ครับ
ทว่าตอนใกล้จะถ่ายทำ จู่ๆ เขาก็เปลี่ยนตัวนักแสดงกะทันหัน
เอานักแสดงคนอื่นไปเล่นแทน ต่อมาหนังเรื่องนี้ต้องยกเลิกไปกลางคัน
ด้วยเหตุผลที่ไม่ชัดเจน
ตอนนั้นผมรู้ซึ้งเลยล่ะครับว่าโลกของหนังน่ะไม่ใช่งานที่ทำกันได้ง่ายๆ
ผมเลยใช้เวลาว่างในช่วง 1 ปีไปกับการพักผ่อน
หลังจากนั้นก็มีหนังเรื่องอื่นติดต่อเข้ามา
แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนตัวนักแสดงอีก ตอนนี้เลยกลายเป็นว่า ผมระแวงไปหมด
พอมีข้อเสนอเข้ามาที ผมก็คิดไปไกลว่า
'สุดท้ายหนังเรื่องนี้จะไปได้จนถึงเปิดตัวมั้ย?' ครับ (หัวเราะ)"



ดูเหมือนคุณไม่ค่อยมีเรื่องให้กังวลใจเลยนะคะ
แล้วเคยคิดมากเกี่ยวกับฟีดแบ็กในแง่ลบทางอินเตอร์เน็ตบ้างหรือเปล่า?
ปักชีฮู : "ผมเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว แค่ 5 นาทีก็ลืมหมดแล้วครับ
(เหมือนเค้าเลย อิ๊อิ๊) เลยไม่ค่อยมีเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจเท่าไหร่
แล้วผมก็เป็นประเภทที่
'ทำดีแล้ว'ด้วยความมั่นใจมากกว่าคิดถึงในแง่ลบ ดังนั้น
ตอนเข้าอินเตอร์เน็ตผมจะไม่ดูข้อความที่ไม่ดีเลย และจะหาดูแต่ข้อความดีๆ
เท่านั้น เพื่อสร้างความมั่นใจครับ
จะว่าไปแล้ว นักแสดงก็เหมือนกับนักกีฬาเบสบอล
การยืนอยู่ต่อหน้ากล้องกับการเดินขึ้นไปยังเนินดินจะต้องใช้พลังความสามารถของตัวเอง
ไม่ควรให้สิ่งอื่นมาทำให้ใจหวั่นไหว
ไม่จำเป็นต้องฟังผู้ชมบอกว่า'นี่
ต้องเพิ่มพลังไว้ที่ไหล่ของนายก่อนจะขว้างออกไปนะ' เช่นเดียวกับการแสดง
แค่ให้ผู้กำกับฯ เป็นโค้ชให้ก็พอครับ



     ส่วนเรื่องการโพสต์ข้อความในแง่ลบหรือให้ร้ายทางอินเตอร์เน็ต
ผมล่ะเกลียดคนแบบนั้นจริงๆ เพราะผลลัพธ์ที่ได้จากการอ่านข้อความเหล่านั้น
ทำให้บางคนถึงกับต้องฆ่าตัวตาย
เพราะรับไม่ได้ ขณะที่คนในวงการบันเทิงก็ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง
ออกจากวงการไปเลยก็มี
ทั้งที่บางเรื่องอาจจะเป็นแค่ข่าวลือที่กุขึ้นมาเท่านั้น
ถึงบางครั้งพวกเขาอาจจะผิดจริง
แต่ก็ไม่ควรจะซ้ำเติมให้มันเลวร้ายลงไม่ใช่หรือครับ คนเราก็ผิดพลาดกันได้
ทำผิดแค่ครั้งเดียวจะไม่ยอมให้อภัย
แล้วจะฝังพวกเขาให้จมดินอย่างนั้นเลยเหรอครับ"



หลังจากลองชิมลางแสดงหนังแล้ว คิดว่าการแสดงหนังกับซีรีส์แตกต่างกันมั้ยคะ?
ปักชีฮู : "การถ่ายทำซีรีส์แม้จะเร่งรีบ แต่ก็ทำไปตามลำดับขั้นตอนครับ
ถ่ายเสร็จไปครั้งหนึ่งก็จบ ในขณะที่หนัง หลังจากสั่ง 'คัท'
เราต้องย้ายไปถ่ายทำในที่ไกลๆ อีกที่หนึ่ง
ผมเคยคิดว่า 'ตอนนี้จับความรู้สึกได้แล้ว
ทำไมต้องย้ายไปถ่ายทางโน้นด้วยนะ?' แถมในหนึ่งฉากอาจต้องถ่ายทำมากถึง 10
วัน แล้วยังต้องจับความรู้สึกแบบเดิมให้ได้ตลอด
ทำให้รู้สึกเหมือนต้องงมาเริ่มใหม่เสมอ ผมจึงกังวลใจแทบทุกครั้ง
นอกจากนี้ หลังจากถ่ายทำเสร็จแล้ว
ก็ยังต้องมาโปรโมตและให้สัมภาษณ์นับครั้งไม่ถ้วน
ในหนึ่งวันผมต้องให้สัมภาษณ์คนเดียวถึง 8 ครั้ง ผมไม่คุ้นเลยจริงๆ ครับ
ยิ่งกว่านั้นยังต้องสัมภาษณ์ที่ละ 1 ชั่วโมงอีก จนผมไม่รู้จะพูดอะไรดี
เพราะคำตอบหลายๆ อย่าง
ผมใช้ตอบกับนักข่าวคนก่อนหน้าไปหมดแล้ว
แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องตอบเรื่องเดิมๆ การสัมภาษณ์ในช่วงแรกๆ
จึงค่อนข้างลำบากมาก แต่นี่ก็ถือเป็นเสน่ห์ของหนังครับ
ถ้าผมคุ้นเคยกับหนังมากขึ้น ผมอาจจะรู้สึกว่า ซีรีส์ก็ไม่ง่ายเหมือนกันครับ"



ได้ยินมาว่า คุณเริ่มต้นเป็นนักแสดงจากการแสดงละครเวทีหรือคะ?
ปักชีฮู : "บ้านเกิดของผมอยู่บ้านนอกครับ
หลังจากย้ายจากบ้านนอกมายังกรุงโซล ก้าวแรกของการเป็นนักแสดงขอมผมก็คือ
ละครเวทีครับ ผมได้เข้ามาผ่านคนรู้จักคนหนึ่ง
และผ่านการดับเบิ้ลแคสติ้งกลายเป็นนักแสดงนำอย่างกะทันหัน
โชคดีมากเลยครับ หลังจากนั้น ผมก็คิดว่าจะต้องค่อยๆ สะสม Profile
งานให้มากขึ้น ผมจึงเริ่มถ่ายทำซีรีส์โดยไม่สนว่า
จะเป็นบทเล็ก บทใหญ่ หรือเป็นแค่ตัวประกอบมาเรื่อยๆ
ซึ่งสิ่งนี้ช่วยได้เยอะเลยครับ เพราะถ้าดูแค่ Profile
ก็ไม่สามารถแยกว่าเป็นนักแสดงที่มีบทน้อยหรือเปล่า ยิ่งกว่านั้น
ในฐานะคนที่แคสติ้งอาจจะมองแตกต่างว่า
'เด็กคนนี้เคยเป็นนักแสดงนำในละครเวทีมาก่อน แถมยังหน้าตาดีด้วย
ไม่น่าจะเป็นแค่ตัวประกอบนะ' ก็เป็นได้ครับ ผมถึงได้โอกาสดีๆ เข้ามา
(หัวเราะ)
แต่พอถึงจุดๆ หนึ่ง ผมก็ไม่คิดจะทำแบบนั้นอีกแล้ว
เพราะไม่งั้นผมคงต้องแสดงแต่บทเล็กๆ ไปตลอดชีวิตแน่ๆ
ผมจึงหันมาให้ความสำคัญกับบทมากขึ้น ดังนั้น ถ้ามีใครติดต่อมา
ผมจะถามก่อนว่า 'บทเป็นแบบไหนครับ?'  ถ้าเป็นบทลูกชายบ้านเศรษฐี,
เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง, เพื่อนพระเอกหรือนางเอก ฯลฯ ผมถึงจะแสดงครับ
เพราะทำแบบนี้น่าจะเข้าตาผู้กำกับฯ ได้มากกว่าครับ"




เพราะเป็นหนุ่มโสด ทำให้คุณมีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น
แล้วเวลาว่างส่วนใหญ่คุณชอบทำอะไรเหรอคะ?
ปักชีฮู : "ส่วนใหญ่เวลาอยู่บ้านผมจะพักผ่อนด้วยการดูหนัง,ฟังเพลง,แช่น้ำอุ่น
หรือไม่ก็แต่งบ้านกับท่องบทครับ
ไม่อย่างนั้นก็ออกไปเดินเล่นและออกกำลังกายที่แม่น้ำฮัน
ซึ่งอยู่หน้าบ้านครับ
ผมพยายามทำทุกวัน วันละ 1 ชั่วโมงครึ่งเพื่อให้รักษาสุขภาพให้แข็งแรง
แต่บางครั้งผมก็ชอบออกไปหาร้านอร่อยๆ รับประทานด้วยครับ"

ที่ผ่านมาคุณได้ร่วมงานกับนักแสดงสวยๆ หลายคน
แบบนี้คงยากที่จะเลี่ยงไม่ให้มีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นได้ใช่มั้ยคะ?
ปักชีฮู : "พวกเราทำงานกันอย่างสนิทสนมก็จริง
แต่น่าเสียดายที่ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดเลย ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า
ถ้าคบกันระหว่างที่ถ่ายทำไปด้วยก็คงจะดีไม่น้อย
เพราะน่าจะช่วยให้จับความรู้สึกได้ง่าย
การแสดงก็คงจะออกมาดีและเป็นธรรมชาติมากขึ้นครับ"



ถ้าสามารถลบความทรงจำบางอย่างออกไปจากชีวิตคุณได้ คุณอยากจะลบเรื่องอะไรคะ?
ปักชีฮู : "ไม่มีครับ เพราะถึงจะเป็นช่วงเวลาที่อยากจะลืม
แต่ถ้าไม่มีเรื่องนั้นก็คงไม่มีผมในตอนนี้ หลังจากเป็นนักแสดงแล้ว
ผมก็ไม่เคยคิดจะลองทำงานอื่นเลยสักครั้ง
ผมแค่มองและวิ่งไปข้างหน้าเท่านั้น
และทางที่จะไปข้างหน้าก็ยังอีกยาวไกลนัก
หนังผมก็เพิ่มเคยแสดงเป็นครั้งแรก ตอนนี้จึงค่อยๆ ลองก้าวขึ้นไปทีละก้าว
เพราะผมเชื่อว่าสักวันหนึ่งตัวเองจะสามารถขึ้นไปยังจุดที่ต้องการได้ครับ"

     ถ้าดูจากหน้าตาและผิวพรรณ น้อยคนนักที่จะเชื่อว่า ปักชีฮู
เป็นเพียงเด็กบ้านนอกที่เคยลำบากมาก่อน
เพราะภาพลักษณ์ภายนอกเขาดูเหมือนคุณชายยังไงยังงั้น
เพราะเหตุนี้เจ้าตัวจึงมักจะย้ำเสมอว่าเขาไม่ชอบตัดสินคนจากเพียงภายนอกเท่านั้น
และไม่คิดที่จะเชื่อคำพูดของคนที่พูดถึงคนอื่น
โดยที่เขายังไม่มีโอกาสได้รู้จักคนคนนั้นจริงๆ
นี่ละมั้ง ถึงทำให้ ปักชีฮู เป็นที่รักของเพื่อนนักแสดงด้วยกัน
ทั้งยังไม่เคยมีข่าวเสียๆ หายๆ เลยสักครั้ง
แบบนี้ตำแหน่งในวงการที่เขาฝันไว้ ก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม...


Credit : Asta magazine, thanks!

49 comments:

  1. M:
    -ผมเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว แค่ 5 นาทีก็ลืมหมดแล้วครับ
    -'ทำดีแล้ว'ด้วยความมั่นใจมากกว่าคิดถึงในแง่ลบ ดังนั้น
    ตอนเข้าอินเตอร์เน็ตผมจะไม่ดูข้อความที่ไม่ดีเลย และจะหาดูแต่ข้อความดีๆ
    เท่านั้น เพื่อสร้างความมั่นใจครับ
    -ไม่ควรให้สิ่งอื่นมาทำให้ใจหวั่นไหว
    -ไม่จำเป็นต้องฟังผู้ชมบอกว่า'นี่
    ต้องเพิ่มพลังไว้ที่ไหล่ของนายก่อนจะขว้างออกไปนะ'
    -ส่วนใหญ่เวลาอยู่บ้านผมจะพักผ่อนด้วยการดูหนัง,ฟังเพลง,แช่น้ำอุ่น
    หรือไม่ก็แต่งบ้าน

    อั๊ยย่ะ! เหมือนกันเลยอ่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. จะบอกว่าคู่แท้อยู่นี่หละสิ ข้ามศพ fyp ไปก่อนเห็นไหมชีวงเล็บไว้ว่า (เหมือนเค้าเลย อิ๊อิ๊)

      ชอบความคิดเขาค่ะหลายๆประโยคถูกใจใช่เลยรวมทั้ง อันนี้ -->เจ้าตัวจึงมักจะย้ำเสมอว่าเขาไม่ชอบตัดสินคนจากเพียงภายนอกเท่านั้นและไม่คิดที่จะเชื่อคำพูดของคนที่พูดถึงคนอื่นโดยที่เขายังไม่มีโอกาสได้รู้จักคนคนนั้นจริงๆ

      Delete
    2. M: ช่ายๆๆ ลืมไป fyPSH ชอลไล่ทุบ 55555

      Delete
    3. HaHaHa! เตรียมอาวุธก่อน คราวนี้ทุบ M ดีกว่า ไม่ใช่จุ๊บนะ

      Delete
    4. 555 มาไล่จุ๊บคนแถวนี้อีกแล้ว

      Delete
    5. M: อย่าทำหนูเลย สงสารหนูเถอะนะคะ 555555

      Delete
    6. @M พี่ fyp เค้าใจดีไม่ทุบหนูหรอก แต่ถ้าทุบ M ละก้อ.....คิดเอาเอง 555

      Delete
    7. อุปส์......

      Delete
  2. อัยย่ะ - เวลาเข้าอินเตอร์เนทจะเปิดดูแต่ข้อความดีๆ ถึงได้ติดใจ สาวๆบล็อคนี้ เย้ยยยย ข้อความดีๆบล็อคนี้ ช่ายมั๊ยคะ คุณเอก 555

    ReplyDelete
    Replies
    1. ติดใจ Dorame งัย อัยย่ะ

      Delete
    2. อัยย่ะ Dorame เพิ่งเข้ามาก้อมาเต็มเลยอ่ะ 555

      Delete
    3. จัดเต็ม หาซื้อหนังสือได้แล้วด้วยอย่างว่องงงงงงงง

      Delete
    4. M: trend อัยย่ะมาแล้ว 555555

      Delete
  3. มากระซิบไว้ตรงนี้นะคะ มีคนบอกว่า PSH นั่นมักจะเข่้าไปเช็ค Sihoorang ในเวลาเที่ยงคืนหรือหลังจากนั้น ก่อนที่จะเลยเถิดมาที่ๆอื่นๆต่อไป .... ส่วนหลังนี้เติมเองคะ จากความเป็นไปได้ไง เรียกว่าไหนๆก็เข็คแล้ว ก็เลยๆมาแถว Sountheast Asia เสียหน่อย (Blog ที่ชอบเอาเรามาทำปู้ยี่ปู้ยำบ่อยๆ ^^)

    ReplyDelete
    Replies
    1. M: อยากอ่านเกาหลีออกบ้างจังเวลาเข้า sihoorang ทีไรไม่รู้จะคลิกไปทางไหนเลย

      Delete
    2. สรุปชัวร์ 100% คุณเอกที่ร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

      Delete
    3. เพิ่มตวามมั่นใจมาอีก....ที่มั่นใจมากคือช่วงสัปดาห์ที่แล้ว งาน KBS Drama Award ก่อนหน้านั้นมาติดๆกันเวลาเดิม แต่พอวันนั้นเงียบเลยมั่นใจอ่ะ

      Delete
  4. ใช่เลยคะ นิกกี้เข้าไปทีไรก็หงายหลังออกมาทุกที ไม่เฉพาะที่ไม่รู้ภาษาเกาหลีนะคะ เราต้องเป็น Member เข้าด้วยถึงจะเข้าไปในบางส่วนได้ ถ้าเขาเปิดเผยหรือยอมให้ Google แปลได้อย่าง Blog เราก็คงจะดีกับแฟนต่างประเทศมาก ใจร้าย ไม่เหมือนเรา ใจดีกว่า แหะๆ

    ReplyDelete
  5. night night...nikki&all:')

    ง่วงมั่กมากเลยจ๊ะ ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ฝันดีมีชีฮู นะคะ

      Delete
    2. ฝันดีจ้า csi

      Delete
  6. จะเข้ามาบอกว่าไปตามซื้อ Asta Mag ฉบับนี้เก็บไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    ReplyDelete
    Replies
    1. แง้ๆๆๆเค้ายังไม่ได้เลย เซเว่นปากซอยหมดซะงั้น

      Delete
    2. เค้าตามหากว่าจะได้ก็ปาไปร้านที่สามแล้วแน่ะ เล่มสุดท้ายด้วย
      เกือบตัดใจนึกว่าจะไม่ได้ซะแล้ววววววว

      เห็นเกาหลี ญี่ปุ่นมีเก็บนิตยสารเป็นว่าเล่น นี่บทสัมภาษณ์ลงของไทยๆเต็มๆอย่างนี้ ต้องรีบเก็บแม้จะไม่ได้ขึ้นปกก็เหอะนะ 555

      Delete
    3. พรุ่งนี้วันหยุดต้องไปตามล่าซะแล้ว ~~^^

      Delete
    4. ที่ SE-ED book center มีเยอะค่ะ ถ้าในเซเว่นจะมีน้อยค่ะ

      Delete
    5. @fyp ขอบคุณค่ะ พอดีวันนี้เลิกงานก้อตรงดิ่งกลับทันที พอจะแวะได้ก้อ เซเว่นนี่แหละ

      เมื่อก่อนนิตตี้ซื้ออ่านประจำนะเพราะตรง ทางเชื่อม MRT สุขุมวิทกะ BTS อโศกเคยมีบูธขายหนังสือแล้วอยู่ดีๆร้านก้อหายไปเฉยเลย ก้อเลยไม่ได้ขวนขวายหาซื้อเท่าไหร่ แต่เล่มนี้ไม่ได้ยังไงๆก้อต้องหามาเป็นสมบัติให้ได้

      Delete
    6. M: อาฮ่า! ได้แหล่งแล้ว พรุ่งนี้เริ่มปฏิบัติการตามล่าเลย

      Delete
    7. โขคดีจ๊ะทุกๆคนสำหรับการตามล่า ... แล้ว 2 เล่มของนิกกี้ได้หรือยังคะ FYP นี้ demand เสียด้วย แต่ Nitty ถ้ายังหาซื้อไม่ได้พรุ่งนี้รีบมาถามพวกเราที่อยู่จุดอื่นๆของประเทศดูนะคะเผื่อจะช่วยดได้เรียกล่าหากันครบ 73 จังหวัดเลย ( อุ๊ย! ตอนนี้เมืองไทยมีกี่จังหวัดแล้วคะ ช่วยบอกคนไม่มีการศึกษาหน่อยคะ สอบตกวิชาสังคมคะ )

      Delete
    8. ล่าคนหรือล่าหนังสือ

      Delete
    9. @นิกกี้ 77 แล้วค่ะ

      555 จริงๆแล้วนิตตี้เคยสั่งตรงกับโรงพิมพ์นะ เพราะเคยอยากได้เล่มนึงมากแต่มันเป็นเล่มเก่าที่เลยปักษ์มาแล้ว เลยสั่งตรงเพราะจริงๆแล้วหนังสือพวกนี้ถ้าขายไม่หมดเค้าจะส่งกลับได้นะแล้วทางสำนักพิมพ์เค้าจะเอาไปขายเลหลังราคาถูกกว่าเล่มปัจจุบัน

      Delete
    10. M: @ nitty จะทำสองอย่างเลยถ้าเป็นไปได้ 55555
      @นิกกี้ ตอนนี้มี 77 จังหวัดแล้วจ้า ตอนนั้นนิกกี้ยังเป็น 73 จังหวัดอยู่เหรอ กี่ปีแล้วนะเนี่ย ติ๊กต๊อกๆ.........
      555555

      Delete
    11. 5555 ก่อนนิกกี้มาอยู่ที่นี่คิดว่ามุกดาหารนะคือจังหวัดสุดท้ายที่เพิ่มเข้ามา ตอนนั้นก็จำไม่ได้แล้วมันอยู่ระหว่าง 73 - 75 นี้แหละ

      Delete
    12. หนังสือของนิกกี้เอามาเก็บไว้ที่บ้านเรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่ต้องห่วงจ้า

      Delete
    13. ขอบคุณหลายๆเด๋อ และ กัม ซา กัม ซา มิ ดะ คะ มั่วไปหมด สรุปคือขอบคุณมากๆคะ ~~^^

      Delete
  7. นิกกี้ pollอะไรสักอย่างนะ
    แต่โหวต PSH หมายเลข 9 คะแนนนำลิ่วเลยยยยย
    http://www.stardailynews.co.kr/poll/pollView.html?idxno=19

    ReplyDelete
    Replies
    1. จะเข้าไปดูเดี๋ยวนี้เลยคะ ,thanks!

      Delete
    2. Dorame, เข้าไป Voted มาเรียบร้อยแล้วคะ จากที่ Google แปล เดาว่าเขาถามว่า " ดาราคนไหนที่คาดหวังว่าจะไปได้ดีที่สุดในปี 2013 นี้ คงหมายถึงประสพความสำเร็จในอาขีพการแสดง และ ความนิยมด้วยนะ และคะแนนของ PSH ก็นำลิ่วจริงๆแบบทิ้งห่างเลย 79% คนอ่ินๆยังเป็นตัวเลขหลักเดียวกันอยู่เลย มันมีผลอย่างนี้เองนะเวลาที่ละครของเขากำลังออกฉาย อย่างนี้เขาไม่ควรจะทิ้งงานละครนานเกินไปจริงๆ เอ้าพวกเราไป Vote กันนะจ๊ะ หรือจะให้นิิกกี้ขึ้น post ดี ?

      Delete
    3. M: @nikki เอาขึ่นเลยจ้า

      Delete
    4. นิตตี้ใช้มือถือเลยก็อปปี้ลิงค์ไม่ได้อ่ะ ถ้านิกกี้แปะลิงค์จะได้ตามไปโหวตสะดวกๆ

      ขอบคุณคร้าบบบบบบบ

      http://kpopdrama.info/kstar_en.html
      และก้ออย่าลืมอันนี้ด้วยนะ

      Delete
  8. นิกกี้ มี blog น่าสนใจอีกอันแหละเกี่ยวกับหมอนและผ้าห่ม Fur

    http://blog.naver.com/haruna85/150155449998

    ReplyDelete
    Replies
    1. ใช้ชื่อยี่ห้อเป็น Artemis Home ด้วย 5555

      Delete
    2. M: เค้าผลิตมาตามกระแสหนังหรือเปล่า

      Delete
    3. เข้าไปดูแล้วคะ ผ้าที่ใช้ผูกแบบเดียวกับที่ นิกกี้ซื้อมาเลยสีขาวเหมือนกันด้วย มันนุ่มจริงสมแล่วที่เรียก Fox Fur แต่นิกกี้เอารูปออกมาไม่ได้ ถ้าใครอยากเห็นก็เช็คจาก link ที่ Dorame ให้มานะคะ

      Delete
    4. ได้เมลแล้วฝากตอบกลับด้วยนะคะ เอ็มจะได้รู้ว่านิกกี้ได้แล้ว

      Delete
    5. ได้รับแล้วคะขอบคุณ

      Delete